No data was found

“กรณ์” ชี้ ไทยต้องเร่งปฏิรูปกฎหมาย ก่อนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

กดติดตาม TOP NEWS

"กรณ์" ยกคำ "Bill Gates" เตือนโลกกำลังผันผวนรุนแรง ถ้าระบบราชการล้าหลัง - กฎหมายไม่ทันสมัย นักลงทุนไม่เชื่อมั่น ชี้ทางออกต้องเร่งปฏิรูปกฎหมาย ก่อนไทยจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

วันที่ 23 มิ.ย.-นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์เฟซบุ๊ก ระบข้อความว่า “โลกกำลังอยู่ในช่วงผันผวนรุนแรง ถ้าระบบราชการยังช้า ไทยจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง!” โดยยกงานเขียนของนาย Bill Gates เคยเตือนภัยต่อโลกไว้ก่อนที่จะเกิดแพร่เชื้อโควิด 2 ปี ว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเกิดขึ้นแน่นอน และภาวะโลกร้อน จะมีผลต่อชีวิตของมนุษย์มากกว่านี้หลายเท่าว่า จึงต้องเตรียมแผนรองรับความเปลี่ยนแปลง

 

นายกรณ์ กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศไปเมื่อวันก่อนว่า อีก 120 วัน จะเปิดประเทศนั้น ก็เพราะมันมีความเป็นไปได้ ตัวแปรสำคัญคือมีวัคซีนที่สามารถผลิตได้เร็วๆ และมีแนวโน้มว่าจะสามารถเข้าสู่สภาวะปกติได้ภายในเวลา 1 ปี เป็นเรื่องที่ค่อนข้างมหัศจรรย์มาก เมื่อเทียบกับในอดีตที่จะใช้เวลา 3-4 ปี หรือมากกว่านั้น ทำให้มั่นใจว่าด้วยประสบการณ์และทรัพยากรที่มีอยู่ของภาคเอกชน หากเกิดการแพร่เชื้อชนิดใหม่ขึ้นอีก โลกก็น่าจะมีศักยภาพเพียงพอที่จะค้นหาวัคซีน เพื่อมาต่อกรกับไวรัสได้ในเวลาไม่เกิน 6 เดือน หมายความว่าต้องมีโครงสร้างและองคาพยพที่มีความฉลาด ยืดหยุ่นเพียงพอในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลง แต่ระบบบริหารจัดการระดับประเทศของเรา โดยเฉพาะระบบราชการที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมายาวนาน

 

นายกรณ์ กล่าวอีกว่า จะหวังให้ระบบราชการปฏิรูปตัวเองคงเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าคนทำงานหรือข้าราชการดีๆ เก่งๆ มีประสิทธิภาพ อยากสร้างความเปลี่ยนแปลง แต่เพราะอำนาจของหน่วยราชการ มาจากการรับหน้าที่ด้วยกฎหมาย ดังนั้นตราบใดที่กฎหมายยังกำหนดว่าขั้นตอนต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แม้บางอย่างยังมีความจำเป็นต้องมีขั้นตอนในระบบราชการ แต่หากจะนำไปสู่การยกระดับให้ระบบราชการมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ต้องปฏิรูปกฎหมาย Regulatory Guillotine เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งรัฐบาลก็เคยพิจารณาเรื่องนี้ แต่ก็เงียบหายไป เพราะขาดแรงผลักดัน

 

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า ในทางเศรษฐกิจ ถ้าย้อนกลับไปดูวิกฤตต้มยำกุ้ง 20 กว่าปีที่ผ่านมา มันคือตัวเปลี่ยนในหลายเรื่องในภูมิภาคเอเชีย ทั้งไทย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ แต่ละประเทศ มีการปรับเปลี่ยนที่แตกต่างกัน แต่ไทยปรับน้อยมาก สิ่งที่มีความสำคัญต่อระบบโครงสร้างที่เกิดจากวิกฤตต้มยำกุ้งคือ การลอยตัวค่าเงินบาท แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ไม่ได้เติบโตด้วยนวัตกรรม หรือประสิทธิภาพในการผลิตที่ดีขึ้น และไม่ได้ส่งผลต่อโครงสร้างอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่

 

“เพราะฉะนั้นสิ่งที่ปรับคือ การเพิ่มความสามารถการแข่งขัน แต่ของไทย บริษัทที่มีใบอนุญาตโตวันโตคืน ส่วนแบ่งตลาดก็มากขึ้น แต่บริษัทเล็กไม่มีโอกาสเติบโตมาแข่งขันได้ เพราะขาดนวัตกรรม สุดท้ายขาดการลงทุน โดยการลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนจากต่างประเทศถอนการลงทุนไปแล้วเกือบ  1 ล้านล้านบาท นั่นคือสาเหตุที่ดัชนีตลาดหุ้นของเราก็ยังย่ำอยู่ที่เดิม ชี้ให้เห็นว่าต่างประเทศมองว่าแนวโน้มโอกาสทำกำไรในประเทศอื่นสูงกว่าการลงทุนในไทย ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มสิทธิประโยชน์จูงใจให้คนกลับมาลงทุน แต่เป็นเรื่องของการปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความรู้สึกว่าอยากจะมาลงทุนที่นี่” นายกรณ์กล่าว

 

นายกรณ์ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นที่จะดึงดูดความสนใจหรือกระตุ้นให้เศรษฐกิจมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น ต้องเริ่มที่ปฏิรูประบบราชการ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว และมีทัศนคติในทางบวกมากขึ้น นอกจากนี้ยังต้องเพิ่มการแข่งขัน สร้างโอกาสให้ธุรกิจใหม่ จึงต้องกลับมาที่เรื่องทัศนคติ อย่างสัปดาห์ที่ผ่านมา กลต.ออกประกาศสกัดดาวรุ่ง การนำเหรียญคริปโต พวกโทเคิล ประเภทต่างๆ ที่อาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชน มาจดทะเบียน ซึ่งเป็นประกาศที่สร้างความตกใจให้กับทุกคนที่อยู่ในวงการคริปโต ถ้าเป้าหมายเพียงเพื่อปกป้องนักลงทุน ก็รู้กันอยู่ว่า ถ้าเขาอยากลงทุนในโลกคริปโตเขาสามารถลงทุนข้ามชายแดนได้โดยสะดวก ผลคือทำให้แนวโน้มการพัฒนาทักษะหรือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล๊อคเชนในประเทศนั้นมันจะหมดไป เมื่อถูกปิดโอกาส คนเก่ง ๆ ก็จะย้ายไปทำในประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์แทน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สุชาติ" เปิดบ้านชื่นมื่น ชาวชลบุรีแห่ยินดี รับตำแหน่งรมช.พาณิชย์ ลั่นมุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน สถาบันหลักชาติ
รอง ผอ.ศรชล.จว.สป. เป็นประธานจัดกิจกรรม "วันอาภากร"
ยายวัย 82 โชคดีหวิดดับ หลังมายืนรดน้ำต้นไม้
ผู้กำกับพัทยาจัดพิธีบวงสรวง เสด็จเตี่ย เนื่องในวันอาภากร
สพป.ขอนแก่น สั่งเด้ง "ผอ." ซื้อบริการเด็ก 12 ปี ตั้งคกก.สอบ เข้าข่ายผิดวินิยร้ายแรง
"โฆษกศธ." ย้ำนโยบายลดภาระเปิดเทอม ผ่อนผัน ยกเว้นแต่งชุดนร.ไม่ใช่ยกเลิก
"ทนายด่าง" เตรียมนำทีมครอบครัว ทวงถามรพ.ราชทัณฑ์ ขอเอกสารก่อน "บุ้ง" เสียชีวิต 5 วัน ยังคาใจใส่ท่อผิดจุด
เตรียมพิธีรับมอบ "Golden Boy–สตรีพนมมือ" หวนคืนแผ่นดินไทย 21 พ.ค.นี้
"นักโบราณคดี" ยืนยัน "โกลเด้นบอย" ถูกค้นพบที่ จ.บุรีรัมย์ ถือเป็นหลักฐานใหม่ พลิกหน้าประวัติศาสตร์
คลิปนี้ชัดมาก “แม่น้องไนซ์” พูดเต็มปากเต็มคำ เชื่อมจิตมีในพระไตรปิฎก โซเชียลจับตาส่อผิด พ.ร.บ.คอมพ์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น