เมื่อเวลา 17.00 น. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2565
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมงบฯ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ เวลา 09.00 น. ก่อนจะพักประชุมเพื่อรับประทานข้าวกลางวัน พอเข้ามาช่วงบ่ายก็พิจารณาต่อ กำลังจะเข้าสู่การพิจารณางบฯของกรมการค้าภายใน และกรมทรัพย์สินทางปัญญา แต่ยังไม่ทันได้มีการพิจารณา กำลังเสนอภาพรวม แต่มีกมธ.อยู่ในห้องประชุมน้อยมาก กมธ.ชุดนี้มี 72 คน ต้องมีองค์ประชุม 1 ใน 3 จึงจะพิจารณาได้ ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เสนอนับองค์ประชุม ขณะนั้นมีฟากรัฐบาลนั่งอยู่ประมาณ 12 คน ซึ่งผู้มาชี้แจงมีจำนวนมากกว่ากมธ.เสียอีก เมื่อมีการเสนอนับองค์ประชุมจึงได้สั่งให้พักการประชุม 10 นาที ให้ไปตามส.ส.จากห้องประชุมใหญ่มา แต่ก็ไม่มีกมธ.อยู่ในห้องประชุมใหญ่ จากนั้นเวลา 16.50 น. นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งทำหน้าที่ประธาน กมธ. จึงสั่งเลิกประชุมเลย โดยไม่นับองค์ประชุม เพราะนับไปก็รู้ว่าไม่ครบ และนัดประชุมใหม่ในวันพรุ่งนี้ (18 มิถุนายน) เวลา 09.00 น. ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าองค์ประชุมจะครบจนเปิดประชุมได้หรือไม่ ทั้งนี้ งบประมาณถือเป็นกฎหมายสำคัญ เรากำลังพิจารณางบประมาณกว่า 3.1 ล้านล้านบาท แต่กมธ.ซีกรัฐบาลกลับไม่มีความรับผิดชอบ
ด้านนายจิรายุ กล่าวว่า ซีกพรรคพลังประชารัฐไม่อยู่เพราะไปจ.ขอนแก่น มีซีกประชาธิปัตย์ที่เข้ามาร่วมประชุมมากพอสมควรก็ยังงง ๆ แม้แต่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในประธานวิปรัฐบาลยังไม่อยู่ พวกตนนั่งเป็นองค์ประชุม นั่งซักผู้ที่มาชี้แจง จนพวกตนก็งงว่านี่พวกตนเป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน พวกตนในฐานะฝ่ายค้านไม่ได้ตีรวน แต่คิดว่ารัฐบาลควรเป็นตัวนำในการซักถาม และรัฐบาลควรให้ความสำคัญกับงบประมาณ เพราะงบประมาณที่จัดมานี้เป็นการจัดก่อนสถานการณ์โควิดระลอกที่ 3 ยิ่งต้องซักถามเพื่อนำมาปรับปรุง พวกตนรู้สึกผิดหวังกับการที่กมธ.ฟากรัฐบาลหายไปเช่นนี้ ก่อนเลิกประชุมเหลือ กมธ.ฟากรัฐบาลอยู่เพียง 10 กว่าคนเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นพรรคประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทยมีเพียงประธานที่ประชุมเท่านั้นที่เป็นพรรคพลังประชารัฐ ตนอยากเรียนไปยังฟากรัฐบาลว่า รัฐบาลต้องรักษามารยาททางการเมือง ถ้าท่านทำไม่ได้ก็ออกไป แล้วให้ฝ่ายค้านขึ้นมาเป็นรัฐบาลดู เราจะทำให้ดูว่าองค์ประชุมนั่งกันอยู่ครบเป็นอย่างไร