การบริหารประเทศในครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2564 เทอม 2 ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาตกต่ำขาลงของพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลอย่างแท้จริง เริ่มต้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด จากเดิมที่ประเทศไทยเคยได้รับการชื่นชมจากองค์การอนามัยโลกและนานาชาติให้เป็นประเทศที่มีการบริหารจัดการรับมือเชื้อโควิดได้ดีที่สุด แต่ภายหลังเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดระลอก 3 ดูเหมือนสถานการณ์ทุกอย่างจะตกต่ำย่ำแย่ลง เป็นความตกต่ำที่เกิดขึ้นพร้อมกับปัญหาต่างๆตามมามากมาย ที่ทั้งหมดล้วนถาโถมตั้งคำถามไปถึงตัวนายกฯในฐานะผู้นำประเทศ อาทิ การประเมินสถานการณ์โควิดผิดพลาด การสำรองวัคซีนไม่สอดคล้องกับจำนวนประชากร การกระจายวัคซีนสลับวิธีการไปมา แม้กระทั่งตอนฉีดวัคซีน ก็ยังเกิดเรื่องวุ่นวายสารพัดปัญหาจิปาถะ วัคซีนไม่พอ โรงพยาบาลไม่พร้อม พลอยทำให้ประชาชนส่วนใหญ่หงุดหงิดไม่พอใจความไม่แน่นอนในการบริหารจัดการปัญหาของพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล
ไม่นับรวมถึงปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ปัญหาความอดอยากปากแห้งของคนไทยที่ล้วนได้รับผลกระทบจากพิษโควิด 3 ระลอก 2 ปีเต็มๆ ขณะที่เสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลผสมในช่วงเวลานี้ก็ง่อนแง่นร่อแร่เต็มทน เพราะเกิดปัญหาระองระแหงระหว่างพล.อ.ประยุทธ์กับพรรคภูมิใจไทย งัดกันหลายเรื่องทั้งโควิดทั้งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ จึงไม่แปลกที่จะเกิดกระแสข่าวยุบสภาผ่าหาทางลง ที่มีขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับพล.อ.ประยุทธ์ตีปี๊บให้รัฐมนตรีทุกคนเร่งสร้างผลงานด่วนภายใน 1 ปี ซึ่งถูกจับไปตีความว่าเป็นสัญญาณนับถอยหลังคืนอำนาจให้ประชาชน
“เราต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของเรา วันนี้ยํ้าว่าใน 1 ปีนี้ เราต้องมีผลสำเร็จให้สามารถจับต้องเป็นรูปธรรมได้ ว่าเราแก้ปัญหาอะไรไปแล้วบ้างใน 1 ปีนี้ และ 1 ปีข้างหน้า จะทำแผนงานอะไรล่วงหน้า เตรียมแผนเอาไว้” นายกฯสั่งเร่งผลงานภายใน 1 ปี หลังประชุมครม. 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน พล.อ.ประยุทธ์ที่ดูเหมือนทำท่าอ่อนแรงเตรีมจะเพลี้ยงพล้ำ แต่หลังผ่านพ.ร.บ.งบประมาณ 3.1 ล้านล้านบาทวาระแรกสำเร็จ ต่อด้วยการผลักดันพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทออกมาเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างเขากับอนุทินและสมาชิกพรรคภูมิใจไทยถูกเคลียร์กันจบ ปิดสวิทต์การเมืองในสภาแบบแฮปปี้เอนดิ้ง
ด้านการเมืองนอกสภาบนถนน การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ทั้งราษฎร ไทยไม่ทน ประชาชนคนไทย ล้วนไร้พลัง ไม่มีมวลชนมาสนับสนุน ขาดแรงอุดหนุนทั้งคนทั้งกระสุน ต่อให้เคลื่อนไหวยาวนานขนาดไหนก็ไม่อาจโค่นล้มรัฐบาลลงจากอำนาจได้ ตอนจบของเหล่าแกนนำทุกกลุ่ม ส่วนหนึ่งต้องถูกดำเนินคดี ส่วนหนึ่งไม่วายมีชนักติดหลัง สุดท้ายปลายทางก็แพ้ภัยตัวเองในที่สุด หลังประเมินปัจจัยทั้งภายในและภายนอกสภาแล้วเสร็จ บวกลบคูณหารจนได้คำตอบไม่มีประเด็นใดเรื่องไหนจะบั่นทอนเส้นทางบริหารประเทศครบ 4 ปี ในเทมอ 2 ลงไปได้ พล.อ.ประยุทธ์จึงกล้าประกาศอยู่ยาวๆดังๆ กลางสภาท่ามกลางพันธมิตรสว.
“นายกฯเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ต้องทำตัวของผมให้มีเกียรติบ้าง ให้คนอื่นเขายกย่องเชื่อมั่น เกียรติเป็นสิ่งที่คนอื่นมอบให้ ฝากไว้ด้วยถ้ามีการเลือกตั้งในอนาคต ผมยืนยันว่าอยู่มันจนครบนี่แหละ จะได้เลิกพูดกันเสียที วันหน้าเลือกกันมาให้ดีแล้วกัน ทุกคนลืมง่ายหมดทุกเรื่อง ผมทำไปข้างหน้าวางอนาคตด้วย” นายกฯกล่าว
จากนี้คงเหลือเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่พล.อ.ประยุทธ์ยังห่วงหน้าพะวงหลังอยู่ คือการประกาศทำสงครามกับโควิด ที่หากสามารถเร่งฉีดวัคซีนได้ครบตามเป้าหมาย 70 % ให้คนไทย 50 ล้านคนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ประเทศได้สำเร็จ เบื้องต้นเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ออกรายการพิเศษประกาศตุลาคมนี้ฉีดครบจบแน่นอน ขณะที่การนำเข้าวัคซีนก็คุยกับม้า 6 ตัวหารือกับ 6 บริษัท คือ ไฟเซอร์, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, โมเดิร์นน่า, แอสตรา เซเนกา, ซิโนแวค, และ ซิโนฟาร์ม มีการลงนามในสัญญาจองหรือสัญญาซื้อไปแล้ว 105.5 ล้านโดส โดยทั้งหมดจะทยอยส่งมอบเข้ามา ภายในปีนี้
จากนั้นก็จะเดินหน้าใช้เงินมหาศาลในมือรัฐบาลตั้งโครงการช่วยทุกกลุ่มอุ้มทุกวงการ ฟื้นเศรษฐกิจของประเทศให้กลับคืนมาโดยเร็วๆ พร้อมไปกับเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ ล่าสุดประกาศดีเดย์ 120 วัน ตุลาคมนี้รับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งแผ่นดิน หากทำได้ตามเป้าหมายทั้งหมด โอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์จะนั่งคาเก้าอี้อยู่ในตำแหน่งยาวถึงปี 2566 ครบวาระหมดเทอม 2 ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเป็นไปไม่ได้
//////////////////////////
