สบส.เตรียมเอาผิด รพ.เอกชน ประกาศแจก “ยาฟาวิพิราเวียร์” ฟรี

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เตรียมเอาผิดรพ.เอกชน 2ข้อหา ประกาศแจกยาฟาวิพิราเวียร์ฟรี ชี้ไม่ได้รับอนุญาต แถมพบโฆษณาโอ้อวดเกินจริงอีกเพียบ

ความคืบหน้ากรณีโรงพยาบาลเอกชน ย่านบางปะกอก โฆษณาเชิญชวนให้ประชาชนลงทะเบียนรับยาฟาวิพิราเวียร์ฟรีนั้น วันนี้ นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดเผยว่า โฆษณาดังกล่าวมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายขึ้นได้ เนื่องด้วยการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ นั้นต้องผ่านดุลพินิจของแพทย์ เพื่อป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของผู้ใช้ ดังนั้นจึงได้สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของกองกฎหมาย ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบการโฆษณาแจกยาฟาวิพิราเวียร์ผ่านเว็บไซต์ ที่ระบุให้ผู้รับบริการแสกนคิวอาร์โค้ด ส่งประวัติการป่วยให้กับโรงพยาบาล ก็สามารถได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ ภายใน 48 ชั่วโมงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้จากการตรวจสอบเพิ่มเติมก็พบว่าการโฆษณาดังกล่าว ไม่ได้มีการขออนุมัติจาก สบส. รวมทั้ง มีโฆษณาอื่นๆ ของโรงพยาบาลที่เข้าข่ายโอ้อวดเกินจริง พนักงานเจ้าหน้าที่ จึงมีหนังสือคำสั่งให้ระงับการโฆษณา และเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องมารับทราบการกระทำผิดตาม พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ในเรื่องของการโฆษณา ได้แก่

  • 1.สถานพยาบาลกระทำการเผยแพร่โฆษณาหรือประกาศฯ โดยไม่ได้ขออนุมัติ และได้รับอนุมัติจากผู้อนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณา และ
  • 2.สถานพยาบาลกระทำการโฆษณาหรือประกาศ อันเข้าข่ายเป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาทจนกว่าจะระงับการโฆษณา นอกจากนี้ ยังถือเป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 ซึ่งไม่อนุญาตให้มีการโฆษณายาฟาริพิราเวียร์อีกด้วย

สำหรับยาฟาวิพิราเวียร์ ถือเป็นยาสำคัญที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 แต่ยาฟาวิพิราเวียร์ ก็มิใช่จะจ่ายให้สำหรับผู้ป่วยทุกราย โดยกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง ก็ไม่จำเป็นต้องรับยาต้านไวรัส เพราะสามารถหายเองได้ ซึ่งยาฟาวิพิราเวียร์ จัดเป็นยาควบคุมพิเศษ การจะจ่ายยาให้กับผู้ป่วยแต่ละรายนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ หากใช้อย่างไม่ระมัดระวังก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ในกรณีของหญิงตั้งครรภ์ ช่วงไตรมาสแรก การใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กทารกในครรภ์ได้ และในกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับก็การใช้ยาก็อาจจะทำให้ตับทำงานหนักขึ้นได้ จึงขอแนะนำให้ผู้ป่วยด้วยโรคโควิด 19 ทุกท่าน เข้ารับการวินิจฉัยและประเมินอาการจากแพทย์ เพื่อการรักษาและจ่ายยาที่เหมาะสมตามอาการ โดยไม่ควรจัดหาหรือซื้อยาฟาวิพิราเวียร์มาใช้เองโดยเด็ดขาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จำใจขาย !คุณยายพยุงวัย 90 นำทองไปขายแล้ว วอนหน่วยงานรัฐมารับตัวไปอยู่บ้านพักคนชรา
ผบช.ภ.3 นำทีมขับเคลื่อนสหกรณ์ตำรวจโคราช—เงินหมุนเวียนพุ่งเกือบ 2,000 ล้าน กำไรทะลุ 200 ล้าน หนุนสวัสดิการตำรวจมั่นคง
มูลนิธิบุญรอด–เอกพจน์ วานิช มอบทุนปีที่ 29
“นฤมล” เปิดงานวัน “ทวี บุณยเกตุ” รำลึกคุณูปการผู้วางรากฐานคุรุสภา ย้ำคนดีไม่มีวันตาย พร้อมมอบทุนการศึกษาสานต่อเจตนารมณ์ สร้างครูคุณภาพ
ชาวสุราษฎร์ 7 ชีวิต เดินเท้า 250 กิโลเมตร เข้าสู่ประจวบฯ ถวายความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระพันปีหลวง
ยังไม่มีคำสั่งหน่วยเหนือ "ทหารกัมพูชา" แก้ตัวหน้าตาเฉย เมินเริ่มเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดน มีแต่ทหารไทยทำฝ่ายเดียว

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​