ด่วน! เมืองช้างเลื่อนนำร่องประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ไปหลังเทศกาลสงกรานต์

สุรินทร์-ด่วน เมืองช้างเลื่อนนำร่องประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ไปหลังเทศกาลสงกรานต์ ก่อนหน้านี้กำหนด 1 เม.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (29 มี.ค.65) เวลา 13.30 น.ที่ห้องประชุมข้าวสารหอม ชั้น 2 ศูนย์ราชการ จ.สุรินทร์สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ได้มีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุรินทร์ครั้งที่ 13/2565  เพื่อติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)จังหวัดสุรินทร์ โดยมีนายเสริมศักดิ์  สีสันต์  รอง ผวจ.สุรินทร์ เป็นประธานการประชุม ร่วมกับ นายแพทย์สินชัย  ตันติรัตนานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยนายแพทย์วุฒิชัย แป้นทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีณรงค์ นำเสนอสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ผลการดำเนินงานฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยที่ประชุมมีมติให้เลื่อนการประกาศโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นออกไปเป็นหลังเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.สุรินทร์ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม 30 คน

ซึ่งจากการที่ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศเตรียมให้จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดนำร่องในการประกาศใช้มาตรการโรคประจำถิ่น ผ่อนคลายการรับชาวต่างชาติจากชายแดนกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ แต่ จ.สุรินทร์ ก็ได้มีมติในการเลื่อนออกไปเป็นหลังเทศกาลสงกรานต์ดังกล่าว

ทั้งนี้ หากการประกาศโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น นำร่องเกิดขึ้น จะสอดคล้องกับ ที่นายฮุน เซน  นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ออกประกาศประกาศ ให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาประเทศกัมพูชา ไม่จำเป็นต้องแสดงผลการตรวจเชื้อโควิด-19 โดยการยกเลิกข้อกำหนดให้แสดงผลตรวจ PCR ของโควิด-19 เพื่อเดินทางเข้าประเทศกัมพูชา,ยกเลิกข้อกำหนดในการตรวจโควิดเร่งด่วน  (ATK) เมื่อเดินทางถึง,เปิดให้ขอ Visa on Arrival สำหรับผู้เดินทางต่างชาติทุกคน ทั้งผู้เดินทางทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ,ผู้เดินทางทุกคนต้องแสดงบัตรหรือใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดส เมื่อเดินทางมาถึงกัมพูชา  สำหรับผู้เดินทางที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส จะต้องกักตัว 14 วัน ณ.สถานที่ที่กำหนดโดยกระทรวงสาธารณสุข  ซึ่งผู้เดินทางทุกคนควรตรวจ ATK ด้วยตัวเอง ก่อนเดินทาง  มีผลวันที่ 17 มีนาคม 2565  โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการดึงดูดนักลงทุน นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว ให้เดินทางเข้ามาในกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจ และการท่องเที่ยวของกัมพูชา.

ภาพ/ข่าว กฤษดากร กีรติธำรงค์เจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กกท.สุราษฎร์ฯ เผยสนามกีฬากลางคืบ 90%
กอ.รมน.ลำปาง ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยบ้านแม่พุ อ.เถิน
ผอ.ยะลา เขต 3 ตรวจเยี่ยมโรงเรียน
"ศาลรธน." ตีตก 2 คำร้อง กล่าวหา "อนุทิน" ทำ MOA พรรคปชน.ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ทำผิดล้มล้างการปกครอง
เรือนจำเบตงประดิษฐ์ริบบิ้นสีดำ มอบให้นายอำเภอและหน่วยงานราชการ
MEA ห่วงใย เตือนภัย อันตรายจากไฟฟ้า ในช่วง "ฝนตก-น้ำท่วม"

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​