“สกลธี” พร้อมเปิดนโยบาย 6 ด้าน ทำได้จริงภายใน 4 ปี

วันที่ 19 มีนาคม นายสกลธี ภัททิยกุล ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เขตพระนคร พบประชาชน จุดแรก บริเวณ Buddy Lodge ถนนข้าวสาร จุดที่สอง หน้าร้านขนมจีนบ้านผู้การ ถนนไกรสีห์ จุดที่สาม มัสยิดบ้านตึกดิน ซอยดำเนินกลางเหนือ และจุดที่สี่ ตรอกบวรรังษี เขตพระนคร

นายสกลธี ภัทิยะกุล ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ผู้สมัครแต่ละคนก็ต้องนำนโยบายของตัวเองมาให้คนกรุงเทพฯพิจารณาอย่างเต็มที่ ซึ่งการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มักจะมีการพลิก หรือเซอร์ไพรส์ เสมอ ไม่จำเป็นว่าคนที่นำมาแต่แรก เหมือนจะนอนมาจะได้เป็น ผู้สมัครทุกคนยังมีโอกาส ต้องเร่งทำคะแนน คุณสมบัติของผู้สมัครแต่ละคนมีจุดเด่นแตกต่างกันไป เช่นตนเคยทำงานมาแล้ว 4 ปี รู้เส้นสนกลในดี และลักษณะการทำงานของตนน่าจะตอบโจทย์คนกรุงเทพฯ ได้ กรุงเทพฯ มีปัญหาจุกจิก เยอะมากมาย ต้องอาศัยคนที่จะลงไปลุยกับปัญหา ตนคิดว่าตนก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะเสนอ และตอบโจทย์ให้คนกรุงเทพฯ

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อข้อถามว่าอะไรเป็นโจทย์ที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯกทม. นายสกลธี กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่คนกรุงเทพฯ ซึ่งตนต้องนำเสนอคุณสมบัติ ตัวตนให้คนกรุงเทพฯ คนกรุงเทพฯมีวิธีการเลือกที่ฉลาดอยู่แล้ว หน้าที่ของผู้สมัครแต่ละคนต้องพยายามแสดงความเป็นตัวตนของตัวเองให้ได้มากที่สุด รวมถึงนโยบายที่ทำได้จริง เรื่องนโยบายตนอยากให้ดู เพราะบางเรื่องเสนอมาดีมาก แต่มันเกินอำนาจของผู้ว่าฯ กทม. และทำไม่ได้จริง ซึ่งนโยบายของตนที่จะเสนอในวันที่ 24 มีนาคม จะมีประมาณ 6 ด้าน และทำได้จริงภายใน 4 ปี คือ ด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านขนส่ง ด้านเศรษฐกิจ สังคม ด้านสิ่งแวดล้อมความปลอดภัย ด้านดิจิตอล ซึ่งจะพูดถึงภาพรวมก่อน จากนั้นแต่ละสัปดาห์ จะเปิดเผยนโยบายแต่ละด้านลงลึกในรายละเอียด

ต่อข้อถามว่าหนักใจหรือไม่ที่พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ที่มีข่าวจะลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย จะมาตัดคะแนน นายสกลธี กล่าวว่า ถ้าพูดถึงเรื่องการตัดคะแนน ตนไม่หนักใจ ผู้สมัครหลายคนก็มีฐานคะแนนที่ทับซ้อนกันอยู่ แต่ทุกคนมีคุณสมบัติโดดเด่นแตกต่างกัน ตนคิดว่าอีก 2 เดือนข้างหน้าคนกรุงเทพฯ ก็คงจะตัดสินใจว่าจะเทคะแนนไปให้ใคร

ต่อข้อถามว่าความยากที่สุดของผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่คืออะไร นายสกลธี กล่าวว่า เป็นเรื่องความจุกจิกของปัญหากทม.ทุกเรื่อง และทัศนคติของคนที่มองปัญหา กรุงเทพฯ ก็เหมือนเมืองใหญ่ทั่วไปทั้งลอนดอน นิวยอร์ก คือภาพสวยงามมี ภาพที่ไม่สวยก็มี ก็อยู่ที่เราจะมอง และแต่ละคนที่เสนอตัวก็พร้อมจะทำให้ดีขึ้น แต่อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนถ้ามองว่าทำเท่าไหรก็ไม่ดี มันก็ไม่ดี ปัญหามันมีให้แก้ตลอดเวลาอยู่แล้ว สำหรับตนในการแก้ปัญหาตนมีสโลแกนว่า กรุงเทพฯ ดีกว่านี้ได้ ตนมองว่าทุกอย่างดีอยู่แล้ว แต่ในช่วงเวลาหนึ่งที่เคลื่อนไป อาจจะมีการบริหารจัดการ การใช้เทคโนโลยีมาช่วยให้ดีกว่านี้ได้ ถ้าตนได้เป็นผู้ว่าฯ ก็จะเอาระบบนี้มาบริหารจัดการ ทำร่วมกับเจ้าหน้าที่กทม. ซึ่งจะทำให้การทำงานง่ายขึ้น และได้รับผลสำเร็จเพิ่มขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ห้างเซี่ยงไฮ้เพิ่มความบันเทิงกระตุ้นการใช้จ่าย
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ยูนนานพบฝูง 'ช้างเอเชีย' พร้อมแก๊งช้างน้อยจอมซน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) แม่น้ำประสานสาย 'ถักเปีย' บนที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต
"พลภูมิ" เผย "แพทองธาร" สั่งเร่งฟื้นศรัทธาในวงการสงฆ์ – ชี้ต้องสร้างความเข้าใจ-ความโปร่งใส พร้อมปรับวิธีสื่อธรรมะให้เข้ายุค
"ทักษิณ" ลั่นเรื่องเฮงซวย "นายกฯ" โดนสั่งพักงาน เสียโอกาสแข่งขันสิงคโปร์ ยันไม่คิดเปลี่ยนตัวผู้นำ เพราะเลือก "แพทองธาร" เหมือนได้ตนเป็นเสมียนประเทศ
เปิดใจ "3 ทหารกล้า" เล่านาทีเหยียบกับระเบิด ชายแดนช่องบก เผยภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติ
"ทักษิณ" โชว์อีกเวทีทอล์ค ซัด "ผู้นำเขมร" ไร้จริยธรรม งงคนไทยไม่รักกัน ดันเข้าข้างกัมพูชา ไม่วายแขวะอดีตพรรคร่วมฯ กล่าวหาขายชาติ
ฝนถล่มปากีสถานทำผู้เสียชีวิตกว่า 60 คนใน 24 ชั่วโมง
"รมช.กลาโหม" ลงพื้นที่ช่องสะงำ ขอให้กำลังพลทุกนาย อดทนอีกนิด เผยเตรียมผ่อนปรนรถขนส่งสินค้าข้ามแดน
“วิสุทธิ์” ยันปัดตีตกกม.นิรโทษคดี 112 เชื่อมีทางอื่นช่วยเด็กติดคุกได้ ย้ำสิ่งสำคัญต้องสร้างสามัคคีให้บ้านเมือง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น