“บิ๊กตู่” ปลื้ม “ซาอุฯ”ยกเลิกห้าม ปชช.มาไทย อนุญาตคนไทยเข้าซาอุดีฯ

“บิ๊กตู่” ปลื้ม "ซาอุฯ"ยกเลิกห้าม ปชช.มาไทย อนุญาตคนไทยเข้าซาอุดีฯ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบข่าวที่น่ายินดีว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบียประกาศยกเลิกการห้ามบุคคลสัญชาติซาอุดีฯ เดินทางเข้าไทย ซึ่งเป็นข้อห้ามที่มีมายาวนานกว่า 30 ปี รวมทั้งอนุญาตให้บุคคลสัญชาติไทยเดินทางเข้าซาอุดีฯ ได้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โฆษกรัฐบาลฯ เชื่อมั่นว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีฯ ได้แน่นอน โดย ททท. ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวซาอุฯ ให้มาเที่ยวไทย 200,000 คน โดยเน้นกลุ่มครอบครัว คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน กลุ่มคนรักสุขภาพ และกลุ่มคู่รักฮันนีมูน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ เป็นกลุ่มที่ค่าใช้จ่ายต่อหัวสูงกว่าหลาย ๆ ชาติ และเป็นกลุ่มที่ยังไม่เคยเดินทางมาไทย

นอกจากนี้ อีกหนึ่งข่าวที่น่ายินดี ทางการซาอุดีฯ พิจารณายกเลิกห้ามนำเข้าสินค้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากประเทศไทย ซึ่งไทยถูกระงับและห้ามการนำเข้ามาตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 โดยมีสถานประกอบการส่งออกของไทยที่ได้รับอนุญาตขึ้นทะเบียนกว่า 11 แห่ง ถือเป็นข่าวดีด้านการส่งออกปศุสัตว์ไทย โดยเฉพาะในการเสริมสร้างบทบาทของไทยในฐานะครัวโลก เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารของซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากซาอุดีฯ ถือเป็นประเทศผู้นำเข้าเนื้อสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์แปรรูปรายใหญ่ของโลก ปัจจุบัน ซาอุดีอาระเบีย มีการนำเข้าไก่ปีละ 5.9 แสนตัน ถือเป็นตลาดใหญ่ที่น่าสนใจ สามารถสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจ

 

ข่าวที่น่ายินดีทั้งสองข่าวดังกล่าว เป็นผลมาจากการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ที่เป็นไปตามลำดับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ภายหลังนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นการเยือนในระดับผู้นำรัฐบาลระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี

นายธนกรกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าผลจากการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศทั้งสองมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะต่างเป็นสองประเทศที่มีศักยภาพ สามารถผูกสัมพันธ์ เชื่อมโยงเป็นผลทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญระหว่างกัน โดย นายกฯ ยังได้เน้นย้ำ และสั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินงาน และนำเอาความสำเร็จจากการสานสัมพันธ์ในครั้งนี้ แปลงไปสู่นโยบายและการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้โดยเร็ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาวบ้านปลื้มนายอำเภอหญิงคนใหม่ลงพื้นที่เยี่ยมเยือนชาวบ้านและผู้ป่วยติดเตียง
จับตา ครม. เตรียมพิจารณาเคาะงบกลางให้ กกต. เลือกตั้ง-ประชามติ ปี69 คาดวงเงินกว่า 8 พันล้านบาท
อบจ.ชัยนาทคึกคัก เด็กเกือบ1,000 คนทั่วประเทศ เข้าสมัครหลักสูตรความเป็นเลิศด้านกีฬาฟุตบอลตามหาความฝัน หวังตามรอยแข้งทองแชมป์7สี
การท่าเรือฯ คว้ารางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น 2568 ด้านการพัฒนาองค์กร ผลงานชัด เติบโตต่อเนื่อง พัฒนาสู่ความยั่งยืน
เร่งล่าตัวคนขับ "รถอัลพาร์ด" กระหน่ำยิง "หนุ่มวัย 34" เสียชีวิต บนทางด่วนประชาชื่น แฟนสาวเล่านาทีเกิดเหตุสลด
"สุริยะใส" ชี้การเมืองสีเทา ใกล้ถูกถอดปลั๊ก ทหารไทยลุยถล่มฐานสแกมเมอร์ "ปอยเปต" ดิ้นเฮือกสุดท้าย กลัวเส้นเลือดการเงินโดนตัดทิ้ง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​