“วงษ์สยามฯ” ส่อแห้ว พรุ่งนี้ (15มี.ค.) ศาลปกครอง นัดไต่สวนฉุกเฉิน บอร์ดที่ราชพัสดุ ดันทุรังมีมติ รับรองผลประมูล ท่อน้ำประปา EEC

"วงษ์สยามฯ" ส่อแห้ว พรุ่งนี้ (15มี.ค.) ศาลปกครอง นัดไต่สวนฉุกเฉิน บอร์ดที่ราชพัสดุ ดันทุรังมีมติ รับรองผลประมูล ท่อน้ำประปา EEC

สืบเนื่องจากการที่ศาลปกครอง มีคำสั่งลงวันที่ 9 มีนาคม 2565 ในคำร้อง ระหว่าง บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ กับ คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนในการจัดให้เช่า / บริหารระบบท่อส่งน้ำภาคตะวันออก ระบุใจความสำคัญดังนี้

โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องขอให้เพิกถอนมติหรือคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ยกเลิกการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ตามประกาศเชิญชวนเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2564

แต่ในระหว่างการพิจารณาคดีนี้ข้อเท็จจริงปรากฎว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้มีประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมยื่นข้อเสนอในโครงการที่พิพาทครั้งใหม่ ตามประกาศเชิญชวนเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ลงวันที่ 10 กันยายน 2564 ซึ่งปัจจุบันได้มีการพิจารณาผู้ได้รับคะแนนประเมินสูงสุดแล้ว

กรณีนี้หากการคัดเลือกเอกชนเพื่อเข้าทำสัญญาในโครงการดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไป จนมีการลงนามในสัญญา ย่อมทำให้ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอในการประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมยื่นข้อเสนอครั้งแรกได้รับความเสียหาย

เนื่องจากมาตรา 119 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 บัญญัติให้การฟ้องคดีไม่มีผลกระทบต่อการจัดซื้อจัดจ้างที่หน่วยงานของรัฐได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างแล้ว จึงย่อมทำให้การฟ้องคดีนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่ผู้ฟ้องคดีในการแก้ไขเยียวยาความเสียหายจากมติหรือคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ยกเลิกการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกครั้งแรก

ประกอบกับโครงการพิพาทมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เอกชนบริหารจัดการและดูแลรักษาระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกให้สามารถตอบสนองความต้องการใช้น้ำของชุมชนและกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอและทันต่อการณ์ โดยบริหารจัดการเพื่อให้เกิดเสถียรภาพและความมั่นคงที่มีผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันในภาคตะวันออก

ดังนี้ หากการยกเลิกการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงอาจเป็นอุปสรรคแก่การบริการสาธารณะด้านการให้บริการสาธารณูปโภค

ศาลจึงมีคำสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาโดยเร่งด่วนตามข้อ 49/2 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543

โดยระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543 ข้อ 49/2 วรรคแรก ระบุสาระสำคัญว่า กรณีตุลาการเจ้าของสำนวนเห็นว่าคำฟ้องใดเป็นคำฟ้องที่สมบูรณ์ครบถ้วน และเป็นเรื่องที่ศาลจำเป็นต้องพิจารณาพิพากษาโดยเร่งด่วน เพราะมีกฎหมายกำหนดเวลาในการพิจารณาพิพากษาไว้เป็นการเฉพาะหรือเพราะเหตุอื่นใด

ซึ่งหากจะดำเนินกระบวนการพิจารณาในชั้นการแสวงหาข้อเท็จจริง การสรุปสำนวน และการนั่งพิจารณาคดีและการพิพากษาคดีตามขั้นตอนปกติ อาจเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ยากแก่การเยียวยา แก้ไขในภายหลัง หรืออาจเป็นอุสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่การบริการสาธารณะ ในกรณีเช่นนี้ เมื่อตุลาการเจ้าของสำนวนรับคำฟ้องไว้พิจารณาตามข้อ 42 แล้วให้เสนอองค์คณะโดยด่วนเพื่อหารืออธิบดีศาลปกครองชั้นต้น เพื่อให้อธิบดีศาลปกครองชั้นต้นพิจารณามีคำสั่งโดยไม่ชักช้า ให้ดำเนินกระบวนการพิจารณาโดยเร่งด่วน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

แต่ปรากฎว่าวันนี้ ( 14 มี.ค.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะ ในฐานะประธานกรรมการที่ราชพัสดุ ได้มีคำสั่งให้มีการประชุม คณะกรรมการที่ราชพัสดุ ครั้งที่ 2/2565 เพื่อรับรองผลการประมูลครั้งที่ 2 ที่กรมธนารักษ์ ระบุว่า บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง เป็นผู้ชนะการประมูล ด้วยเงื่อนไขว่าเป็นบริษัทเอกชนที่ให้ผลตอบแทนกับรัฐสูงกว่าบริษัทอื่น โดยไม่รอผลคำพิพากษาของศาลปกครอง ซึ่งเป็นมติเดิมที่บอร์ดที่ราชพัสดุ เคยมีไว้ในการประชุมครั้งแรก ให้ชะลอการรับรองผลการประมูลเพื่อรอคำพิพากษาศาลปกครอง

รวมถึงในที่ประชุมบอร์ดที่ราชพัสดุ ครั้งที่่ 2 ยังมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 ให้ดำเนินการรับรองผลการประมูลครั้งที่ 2 โดยนายสันติ อ้างว่าที่ประชุมในเรื่องการประมูลท่อส่งน้ำภาคตะวันออก คณะกรรมการฯ ทุกท่านได้สอบถามฝ่ายเลขาฯ คือกรมธนารักษ์ ในทุกแง่มุมแล้ว ว่า ได้ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายของที่ราชพัสดุอย่างครบถ้วน 100% โดยให้มีการยืนยันถึง 2 – 3 รอบ และให้ยืนยันกับทุกฝ่าย ถึงผลประโยชน์ของรัฐ และการรักษาภาคอุตสาหกรรมให้เกิดความต่อเนื่องในการกระจายน้ำ

“วันนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม 9 ท่าน มีมติเห็นชอบ 6 ท่าน และให้รอคำพิพากษาศาลปกครอง 2 ท่าน งดออกเสียง 1 ท่าน โดยที่ประชุมได้พยายามซักเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบ ตามกฎหมาย ตามขั้นตอน ว่าได้มีการกลั่นกรองอย่างรอบคอบเต็ม 100% หรือไม่ และเรื่องที่อัยการมีข้อเสนอแนะที่แก้สัญญามา ทุกข้อเป็นไปตามนั้นของสัญญาหรือไม่ เป็นที่เรียร้อยแล้ว ก่อนลงมติดังกล่าว”

และเมื่อถามว่าจะมีผลต่อคดีที่ยังอยู่ในศาลปกครองหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ในที่ประชุมได้พูดถึงว่า ปัจจุบัน ผู้ที่แข่งขันแล้วไม่ชนะ ส่วนใหญ่ก็จะไปฟ้องร้อง เพราะฉะนั้นมันก็เป็นสิทธิในเมื่อกฎหมายเปิด แต่ทางราชการ ทางกรมธนารักษ์เอ ง ก็จะต้องดูแล ประโยชน์ของทางราชการ ประโยชน์ของเศรษฐกิจ เพราะน้ำเสมือนหนึ่งลมหายใจของภาคอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก น้ำจะหยุดส่งไม่ได้ วันเดียวโรงงานก็เสียหายมหาศาล ดังนั้น โดยกฎระเบียบของกรมธนารักษ์ ให้สามารถเริ่มดำเนินการหาผู้ซัพพลายน้ำ ภายใน 2 ปีอยู่แล้วเพราะฉะนั้น เป็นการเตรียมการที่จะรองรับว่า เมื่อครบสัญญาควรทำแต่เนิ่นๆ ต้องทำล่วงหน้าอย่างนี้ถูกต้องแล้ว

รวมถึงเมื่อสอบถามข้อท้วงติงของอีสท์ วอเตอร์ ที่ได้มายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการที่ราชพัสดุทุกราย นายสันติ กล่าวว่า ทางบริษัทเพิ่งส่งเข้ามาหน้าห้องประชุมเมื่อเช้า ยังอ่านไม่หมด อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ ได้รับทราบ โดยได้ขึ้นจอ และอ่านให้ที่ประชุมฟัง ก่อนพิจารณาทุกอย่างอย่างรอบคอบ คณะกรรมการทุกท่านก็ทราบ เพราะเราก็แจ้งหมด ใครส่งหนังสืออะไรมา ก็แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบหมด

และหลังจากนี้ ขั้นตอนต่อไป เป็นเรื่องของฝ่ายเลขาฯ คือ กรมธนารักษ์ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ ที่จะไปตรวจแต่ละข้อ ตามที่ที่ประชุมกำชับไว้ว่าจะต้องปฏิบัติตามข้อสั่งการ ข้อเสนอแนะต่างๆ ของอัยการ ให้ครบถ้วย 100% ทั้งนี้ คณะกรรมการที่ราชฯ มีหน้าที่อย่างเดียวคือ เห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ

 

 

 

อย่างไรก็ตามล่าสุด ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ 1746/2564 ระหว่าง บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ ในฐานะผู้ฟ้องคดี กับ คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนในการให้เช่า/บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักภาคตะวันออก ผู้ถูกฟ้องคดี ระบุใจความสำคัญว่า

“ด้วยศาลได้พิจารณาคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคำขอและมีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาเป็นการฉุกเฉิน ฉบับลงวันที่ 14 มีนาคม 2565 ของผู้ฟ้องคดีแล้ว จึงมีคำสั่งให้นัดไต่สวนคู่กรณีในวันที่ 15 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 น. ที่ศาลปกครอง ชั้น 3 ห้องพิจารณาคดี 2 พร้อมกำหนดให้ผู้ฟ้องและผู้ถูกฟ้องคดีไปศาลตามกำหนดนี้

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กัมพูชา" ยอมรับแล้ว เหตุปิดจุดผ่อนปรนช่องอานม้า ประท้วงไทยปรับเวลาก่อน ขู่ซ้ำต้องกลับมาเปิด-ปิดด่าน ให้เป็นปกติ
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ารับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ของโลก ในการประกวดเวทีออสการ์อาหารโลก ปี 67
ศน. จัดโครงการเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ “ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน ทำบุญตักบาตร ยลวิถีลาวเวียง” ส่งเสริมชุมชน–น้อมธรรมสู่ชีวิต
"ปชป." ประชุม 3 ชั่วโมง ไม่มีคำตอบชัด ๆ ให้รอแถลงการณ์ ลายลักษณ์อักษร หลังเจรจาเพื่อไทย
เริ่มแล้วที่แรก! จ.ลำพูน กิจกรรมขยายผลภูมิปัญญาศิลปินสู่การพัฒนาอาชีพ ระดับภูมิภาค 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า “ศิลปินสร้างศิลปิน”
“พีระพันธุ์” อุบมติรทสช. ขอคุย “แพทองธาร” เรื่องที่เกิดขึ้นก่อน ผุดไอเดีย “ชัยเกษม” นั่งนายกฯแทน
GLO จัด "Kid Dee Roadshow" เสริมเกราะใจไซเบอร์ให้เยาวชนใต้ รู้เท่าทันภัยพนันออนไลน์
“ภราดร” เข้ากราบลา “วันนอร์” หลังลาออก รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ขอบคุณไว้วางใจ นับเป็นเกียรติได้ทำหน้าที่
"วราวุธ" แถลงชาติไทยพัฒนา ประชุม สส.-กก.บห.ไม่ถอนตัว รอคุยนายกฯเพิ่ม เกิดอะไรขึ้น
"สิบเอกสังกัดกอ.รมน." เครียดปัญหาส่วนตัว เบิกเอ็ม 16 เหนี่ยวไกปลิดชีพคาหน่วย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น