โควิด19 ไม่กระทบธุรกิจ “สรรพากร”เผยยอดจัดเก็บเกินเป้า 13% จากผลกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐลงภูมิภาค

สรรพากรพื้นที่กาฬสินธุ์เผยยอดเก็บภาษีประจำปี 2564 ตัวเลขสวยเกินเป้าที่ตั้งไว้ถึง 13 % ระบุเป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐลงภูมิภาค บริษัท ห้างร้าน จำหน่ายเครื่องมือแพทย์ ครุภัณฑ์ป้องกันรักษาโรคโควิด-19 ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเกิดการขยายตัว รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรสูงขึ้น คาดยังจะยืนระดับการเก็บภาษีเกินเป้าที่ตั้งไว้ถึงเดือนตุลาคม 2565

วันที่ 7 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากการติดตามผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ที่ยังคงพบผู้ได้รับเชื้ออย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่ปี 2562-2565 ส่งผลให้ผู้ประกอบการ ห้างร้าน ประเภทต่างๆ รวมทั้งนิติบุคคล ประชาชนผู้ใช้แรงงาน ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง สถานประกอบการหลายแห่งปิดกิจการไป เนื่องจากต้องรักษามาตรการทางสังคม และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

ขณะเดียวกัน จากการติดตามผลกระทบในส่วนของการจัดเก็บภาษีทั้ง 5 ประเภท คือภาษีเงินได้นิติบุคคล, ภาษีหัก ณ ที่จ่าย, ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีอาการแสตมป์ ของสำนักงานสรรพากรพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ กลับพบว่าบรรยากาศในการจัดเก็บภาษีอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ถึง 13 %

นายอรรถพล ปัจจัย สรรพากรพื้นที่กาฬสินธุ์กล่าวว่า ในภาพรวมของการจัดเก็บภาษีในปี 2564 ในส่วนของสำนักงานสรรพากรพื้นที่กาฬสินธุ์มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยสามารถเก็บภาษีได้สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ถึง 13 % ทั้งนี้ เป็นผลมาจากผู้ประกอบการ ห้างร้าน ได้มีการจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ ครุภัณฑ์ที่ใช้ในการป้องกันและรักษาโรคโควิด-19 ให้กับประชาชน ตลอดจนธุรกิจทางด้านการก่อสร้างหรือรับเหมา ที่เข้ามาในระบบมีการขยายตัวมากขึ้น และในส่วนของแหล่งรับซื้อผลผลิตภาคการเกษตร เช่น โรงแป้งมัน โรงงานน้ำตาล โรงงานเอทานอล ยังดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง โดยรับซื้อผลผลิตในราคาสูงและมีปริมาณที่มากขึ้น ขณะที่ในส่วนของการประกอบการด้านเงินกู้ และร้านจำหน่ายจักรยานยนต์ ค่อนข้างจะเก็บได้น้อยลง อย่างไรก็ตาม คาดยังจะยืนระดับการเก็บภาษีเกินเป้าที่ตั้งไว้ถึงเดือนตุลาคม 2565

นายอรรถพลกล่าวอีกว่า ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา ทางกรมสรรพากร ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลหลายรูปแบบ เพื่อเยียวยาผู้ประกอบการ นายจ้าง รวมทั้งประชาชนที่เสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคล เช่น รีบคืนเงินภาษีให้รวดเร็ว เพื่อนำมาใช้ในการครองชีพและใช้ในระบบมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีในส่วนของการลดอัตราดอกเบี้ย ลดอัตราเบี้ยปรับ จัดโครงการชิม ช็อป ใช้ รายละ 3 หมื่นบาท ทั้งนี้ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการทุกประเภทและประชาชน ตามนโยบายรัฐบาล.

 

ภาพ/ข่าว ชมพิศ ปิ่นเมือง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กาฬสินธุ์

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น