“องค์การเภสัชกรรม” ยืนยันยาฟาวิพิราเวียร์เพียงพอตามแผนสำรอง

"องค์การเภสัชกรรม" ยืนยันยาฟาวิพิราเวียร์เพียงพอตามแผนสำรอง

รองผู้ ผอ.องค์การเภสัชกรรมเปิดเผยข้อเท็จจริง ยืนยันยาฟาวิพิราเวียร์ มีเพียงพอ ตามแผนผลิตสำรอง 100 ล้านเม็ด หลังแพทย์ชนบทโพสต์ปัญหายาขาดแคลนหนัก ขอประชาชนมั่นใจ แนะสื่อตรวจสอบปัญหาการกระจายยาลงไปตามหน่วยย่อยต่างๆ เตรียม PR แนวทางการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ ตามความสมเหตุผลให้กับประชาชนรับทราบ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้ ผอ.องค์การเภสัชกรรม กล่าวถึงข้อเท็จจริง ประเด็นการขาดแคลนของยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยารักษาโรคโควิด 19 นั้น ขอยืนยันว่า มีเพียงพอ เพราะทางองค์การเภสัชกรรมได้มีการสำรองยาเอาไว้ จากการได้ทำงานร่วมกันกับคณะทำงานภารกิจด้านสำรองเวชภัณฑ์และส่งกำลังบำรุงของกระทรวง ได้วางแผนสำรองยาตามที่ได้รับมอบหมาย โดยต้องมีแผนสำรองไว้ที่จำนวน 60-100 ล้านเม็ด โดยองค์การฯ จะต้อง สำรองไว้อาทิตย์ละ 10 ล้านเม็ด

สำหรับแผนการผลิตจะผลิตตลอดเดือนมี.ค. 2565 จำนวน 44.4 ล้านเม็ด และช่วงระหว่างวันที่ 1-18 เม.ย. 2565 ผลิตจำนวน 22.9 ล้านเม็ด ประกอบกับช่วงปลายเดือน ก.พ.2565 จนถึงเดือน มี.ค. 2565 สำรองผลิตเพิ่มเติมอีก และนำเข้ามาอีกจำนวน 24 ล้านเม็ด อีกทั้งในวันนี้มีการประชุมร่วมกันกับคณะทำงาน และคาดว่าจะทำการสั่งซื้อสำรองมาอีกประมาณ 10-20 ล้านเม็ด เพื่อย้ำว่ายาฟาวิพิราเวียร์มีเพียงพอต่อการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด

 

ส่วนกรณีที่เพจเฟซบุ๊กในบัญชีชื่อ “ชมรมแพทย์ชนบท” ได้โพสต์ข้อความที่มีเนื้อหาระบุที่มีเนื้อหาว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ ขาดแคลนหนักมากนั้น ภญ.ศิริกุลกล่าวว่า ตนก็ยังไม่ทราบ แต่ทุกครั้งที่ทางกระทรวงสาธารณสุข มีการมาเบิกขอจ่ายยา ทางองค์กรก็ส่งมอบไปทุกครั้ง จึงไม่แน่ใจว่าเป็นเหตุใด จึงอยากแนะนำให้สื่อมวลชนลองไปหาสาเหตุเพิ่มเติมว่าเพราะเหตุใดจึงไม่แจกยารักษาให้กับประชาชน หรือไปหาข้อมูลจากประกาศแนวทางเวชปฏิบัติของกรมการแพทย์ ฉบับปรับปรุง วันที่ 1 มีนาคม ตามแนวทางการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 ที่ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษาตามอาการของผู้ป่วย รวมไปถึงปัญหาการกระจายยาลงไปตามหน่วยย่อยต่างๆ

ส่วนสาเหตุ ที่สังคมตั้งคำถามถึงประเด็น ว่าเมื่อยาฟาวิพิราเวียร์มีเพียงพอต่อแผนสำรองการผลิตแล้วนั้น เหตุใดจึงไม่แจกยาฟาวิพิราเวียร์เพื่อรักษาให้กับผู้ป่วยติดเชื้อโควิคทุกราย ซึ่งทาง ภญ.ศิริกุล ก็มองว่าขึ้นอยู่กับแนวทางของกระทรวงและดุลยพินิจของแพทย์ในการใช้ยาอย่างสมเหตุผล เกรงว่าจะเชื้อโควิด19 จะมีโอกาสดื้อยา เช่นเดียวกับกับการรักษาไข้หวัดใหญ่ในครั้งอดีตที่ผ่านมา และโดยหลังจากนี้จะเดินหน้าสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในเรื่องการใช้และแจกยารักษายาฟาวิพิราเวียเพื่อการรักษาโรคโควิด19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"จตุพร" เรียกร้องรัฐบาล รับผิดชอบปมชายแดนไทย-กัมพูชา หลังสูญเสียทหาร-ปชช. "พิชิต" แท็กทีม จี้ "นายกฯอิ๊งค์" พิจารณาตัว คุย "ฮุน เซน" คลิปเสียงหลุด
"ผอ.พยาบาลรามาฯ" โพสต์ประกาศ พร้อมรับลูกนายทหารสละชีพ เรียนพยาบาลโควตาพิเศษ ไม่ต้องสอบเข้า
"ผู้ว่าฯร.ฟ.ท." ยันตรวจสอบชัดเจน ปมเขากระโดง รออธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เพิกถอนโฉนด
"รมว.ปุ๋ง" รุดให้กำลังใจผู้อพยพ เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ศูนย์พักพิงโคราช กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มดูแลกลุ่มเปราะบาง พร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ
วธ. จัดพิธีปล่อยขบวนรถศาสนิกสัมพันธ์ร่วมใจ ช่วยผู้ประสบอุทกภัย-ผู้ได้รับผลกระทบ เหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา
"GULF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​