หลังจากที่ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ถูกศาลจังหวัดมุกดาหาร ออกหมายจับตามคำขอของตำรวจ สภ.กกตูม ในข้อหาเกี่ยวกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่ อายุ 3 ปี ใน 3 ข้อหา คือพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย, และกระทำการใดๆแก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
กระทั่งตำรวจได้นำตัวไปลงบันทึกการจับกุมที่ สน.ปทุมวัน พร้อมกับนำตัวนายไชย์พล ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อนำตัวมาคุมขังที่ สภ.กกตูม เป็นเวลา 2 คืน โดยช่วงเช้าวันนี้ (4มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฎิบัติการพิเศษ ได้นำตัวนายไชย์พล หรือลุงพล มาขออำนาจศาลจังหวัดมุกดาหาร ทำการฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน
ต่อมา ทางนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้ใช้หลักทรัพย์เป็นที่ดิน จำนวน 2 แปลง และเงินอีก จำนวน 2 ล้านบาท เพื่อเป็นการค้ำประกัน
ล่าสุดศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้พิเคราะห์และพิจารณาเกี่ยวกับการยื่นคำร้องของประกันตัว นายไชยพล หรือลุงพล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอนุญาติให้ประกันตัวได้ โดยให้วางหลักทรัพย์เป็นเงิน โดยระบุสาเหตุว่ามีความเสี่ยงโควิด19 เพราะเดินทางไปหลายสถานที่ โดยตั้งเงื่อนไข ห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ด้าน ทนายตั้ม โพสต์ว่า ศาลจังหวัดมุกดาหารมีคำสั่งให้ประกันตัวลุงพล!! วางหลักทรัพย์ 180,000 บาท ออกข้อกำหนดหากไม่ปฎิบัติตามจะถูกเพิกถอนการประกันตัว