จากกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความของนาย ไชย์พล วิภา หรือลุงพล บ้านกกกอก ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของน้องชุมพู่ ที่ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม ปมเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายไชย์พล ในขณะที่ทนายความกำลังพาผู้ต้องหาไปมอบตัวกับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กลับจับกุมแทนถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งต่อมานายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย ได้ติดต่อเพื่อขอข้อมูลและประสานให้ยื่นเรื่องตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ด้วย
นายสิระ เจนจาคะ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท็อปนิวส์ ว่า ทนายษิทรามีข้อสงสัยเรื่องการออกหมายจับของคดีนี้ และการที่ลุงพลไปมอบตัว แต่เจ้าหน้าที่จับกุมใส่กุญแจมือ นำไปลงบันทึกการจับกุมว่าจับตามหมายจับไม่ได้มามอบตัว และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.แจ้งว่าจะไม่รับมอบตัว จึงอยากมายื่นให้ กมธ.กฎหมาย ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งปกติแล้ว ที่เราได้เห็นผ่านสื่อ กรณีนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก เดินทางมามอบตัวกับกองปราบ ก็แต่งตัวใส่สูทอย่างหล่อ ไม่ได้มีพฤติกรรมการจับกุมแบบลุงพล จึงเกิดข้อสงสัยว่า หลักการปฎิบัติว่ามีมาตรฐานอย่างไร ทำไม่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติไม่เหมือนกัน โดยทนายตั้ม แจ้งว่า จะมายื่นเรื่องในวันอังคารที่ 8 มิ.ย.64
เมื่อถามว่าหลังจากรับหนังสือแล้วจะดำเนินการอย่างไร นายสิระตอบว่า หลังจากรับหนังสือแล้วจะนำเข้าคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาแล้วสัปดาห์ถัดไปก็จะเชิญ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.มาชี้แจง และหากลุงพล ได้รับการประกันตัว ก็จะเชิญมาชี้แจงพร้อมกับทนายความด้วย
ส่วนการมอบตัวหรือการถูกจับกุมนั้น มันแตกต่างกัน เพราะการสืบ จับกุมตามหมายจับ จะมีผลเรื่องการคัดค้านการประกัน ว่ามีพฤติกรรมหลบหนี ศาลจะพิจารณาแล้วว่ามีน้ำหนัก แต่ถ้าเป็นการมามอบตัวเองเมื่อพนักงานสอบสอบคัดค้านการประกันตัว ศาลก็จะมองว่าไม่มีน้ำหนัก โอกาสที่ศาลจะให้ประกันตัวก็มีสูงเพราะมามอบตัวเองไม่มีพฤติกรรรมหลบหนีและในการออกหมายจับในคดีนี้ ไม่มีความอุจฉกรรจ์ ไม่มีการเกี่ยวข้องกับการฆ่าและลุงพลก็เป็นผู้มีชื่อเสียงมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งน่าจะออกหมายเรียกก่อนหรือไม่ ทำไมถึงเป็นหมายจับเลย นายสิระกล่าว