หน่วยงานด้านสุขภาพของ UN ได้ลงนามในการใช้วัคซีนซิโนแวคในปริมาณสองโดส ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีหลายประเทศทั่วโลกนำไปใช้บ้างแล้ว และหลังจาก WHO มีการตรวจสอบความถูกต้องของวัคซีนซิโนแวค ล่าสุดในวันที่ 1 มิถุนายน ซิโนแวคก็ได้รับการอนุมัติสำหรับการใช้ในกรณีฉุกเฉิน การรับรองครั้งนี้ทำให้บรรดาประเทศผู้ให้ทุนจัดหา หน่วยงาน และบรรดาชุมชนต่างๆ สามารถรับประกันได้ว่าวัคซีนซิโนแวคเป็นไปตามมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัยในเรื่องประสิทธิภาพและการผลิต ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ซิโนฟาร์มกลายเป็นวัคซีนจากประเทศจีนตัวแรกที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก
การได้รับการอนุมัติจาก WHO เป็นการปูทางให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกอนุมัติและนำเข้าวัคซีนเพื่อจำหน่ายได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะรัฐที่ไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลมาตรฐานสากลของตนเอง นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดประตูให้กับวัคซีนเข้าสู่โครงการโคแวค โครงการเพื่อการแบ่งปันวัคซีนทั่วโลกโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่ยากจนกว่า ซึ่งขณะนี้มีเพียงไฟเซอร์และแอสตราเซเนกาเท่านั้นที่อยู่ในโครงการ
นางมารีแอนเจลา ซีเมา ผู้ช่วยผู้อำนวยการทั่วไปของ WHO ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ กล่าวว่าโลกต้องการวัคซีนป้องกันโควิด 19 เป็นอย่างมาก เพื่อจัดการกับความไม่เท่าเทียมกัน ซึ่ง WHO ขอเรียกร้องให้ผู้ผลิตเข้าร่วมในโครงการโคแวค และแบ่งปันข้อมูลความรู้ รวมถึงมีส่วนร่วมในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
ขณะนี้ ซิโนแวค มีการใช้งานแล้วใน 22 ประเทศทั่วโลก ซึ่งนอกเหนือจากจีนแล้ว ประเทศที่ใช้ซิโนแวค ได้แก่ ชิลี บราซิล อินโดนีเซีย เม็กซิโก ไทย และตุรกี ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกแนะนำถึงการใช้วัคซีนซิโนแวคว่าเหมาะสำหรับใช้ในผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไป โดยแบ่งเป็นสองโดสให้มีระยะห่างระหว่าง 2-4 สัปดาห์