การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2565ในช่วงเย็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงภายหลัง นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส. อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายด้วยคำพูดที่ค่อนข้างรุนแรงและเสียงดังหลายครั้งระบุ นายกรัฐมนตรีต้องถอนร่างพ.ร.บ.งบประมาณออกไป ถ้าไม่ถอน ก็ให้นายกฯออกไปด้วยยิ่งดี ว่า การใช้จ่ายงบประมาณ เป็นไปอย่างเข้มงวด สถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดทั่วโลก วันนี้กว่า 5 แสนราย แต่ละประเทศมีทั้งผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตสูงขึ้น สำหรับประเทศไทยวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็ลดลงเหลือ 2,330 รายในกรุงเทพฯ ในเรือนจำ คลัสเตอร์คนงาน รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ทั้งเรื่องการบริหารเตียง บริหารโรงพยาบาลสนาม และเตียงในโรงพยาบาล มีการปรับเรื่องการกระจายจุดฉีดวัคซีน การเตรียมจัดหาวัคซีน ซึ่งจะให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ชี้แจงต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องวัคซีน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงธันวาคม ระยะเวลา 7 เดือน สามารถหาวัคซีนได้ 10 ล้านโดส ก็จะครอบคลุมประชาชนประมาณ 70 ล้านคนทั้งเข็ม 1 และเข็ม 2 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขติดต่อ และจะมีวัคซีนยี่ห้ออื่นเข้ามาอีก วันนี้มี 2 ยี่ห้อคือ ซิโนแวค และแอสตราเซนเนก้า แล้ววันนี้ก็มีซิโนฟาร์มเข้ามาเสริม และ ไฟเซอร์ก็ได้ขึ้นทะเบียนกับเราและจะสามารถนำเข้ามาในไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ซึ่งอยู่ในแผนนี้ทั้งหมด แต่ปัญหาของวัคซีนคือทุกประเทศในโลกต่างแย่งชิงกันซึ่งเป็นวัคซีนของรัฐที่รัฐจะส่งออกได้หรือไม่เป็นเรื่องของรัฐบาลของเขา โชคดีที่เราได้ทำสัญญาตรงนี้ไว้ก่อน
“ผมไม่ได้ใช้อำนาจเพียงคนเดียว เวลาผมประชุมก็มีรัฐมนตรีเกือบทั้งหมดอยู่ใน ศบค.ด้วย มีทั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง หมอ ที่ปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์ ผมตัดสินใจจากตรงนั้นไม่ใช่ผมไปสั่ง (ระหว่างที่นายกฯพูดถึงท่อนนี้ได้ถอนหายใจยาวเสียงดังเฮ้อ) …. ไม่ได้เอาแต่ใจอย่างที่นายขจิตร ต่อว่า ซึ่งเป็นเพราะเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าก็ไม่ทราบ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยืนยันในขีดความสามารถของวัคซีนที่มีอยู่ทาง แอสตราเซเนกา ชิโนแวค ชิโนฟาร์ม ซึ่งระหว่างชิโนแวค กับชิโนฟาร์มคุณภาพใกล้เคียงกันแต่ต่างกันแค่ระยะเวลาต่างกันเพราะว่าชิโนแวค ใช้ระยะเวลาน้อยกว่าในการฉีดเข็ม 2 ซึ่งจะสามารถฉีดได้เร็วขึ้นและมีปริมาณที่เพียงพอ ส่วนแอสตราเซเนกา ฉีดเข็มแรกได้ผลดีอยู่แล้ว จึงสามารถทอดเวลาได้อีกระยะหนึ่ง ฉะนั้นทุกอย่างจึงเปลี่ยนไปตามสถานการณ์โลก และวัคซีนผลิตในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ทั้งสิ้น และประเทศนั้นก็มีการแพร่ระบาดเป็นจำนวนมากอยู่ในปัจจุบัน ถ้าไม่ได้ติดตามข้อมูลก็มัวแต่จะมาโทษรัฐบาล โทษนายก ซึ่งรัฐบาลก็ทำงานอย่างเต็มที่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
“งบประมาณวัคซีนมีไม่จำกัด แต่เมื่ออภิปรายว่าอย่างนั้นอย่างนี้ใช้ไม่ถูกต้อง จึงขอถามกลับไปว่า ที่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องมาใช้หนี้จำนำข้าวตั้งเท่าไหร่อยู่ในยอดนี้หมด ที่ว่ายอดสูงเนี่ย ไม่อยากจะย้อนกลับ ว่าได้ใช้หนี้ไปแล้ว 7 แสน 5 พันล้าน เหลือภาระหนี้อีก 2 แสน 8 หมื่นล้าน และต้องใช้หนี้ไปอีก 12 ปี” นายกรัฐมนตรี กล่าว