“นิพนธ์” เตรียมความพร้อมเบตง รับนักท่องเที่ยว ด้านความปลอดภัยทางถนน-จัดการสิ่งแวดล้อมระบบน้ำเสีย

"นิพนธ์" เตรียมความพร้อมเบตง รับนักท่องเที่ยว ด้านความปลอดภัยทางถนน-จัดการสิ่งแวดล้อมระบบน้ำเสีย พ่วงมอบนโยบายเร่งรัดการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเบตง จังหวัดยะลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ 2565 การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน และการดำเนินงานขององค์การจัดการน้ำเสียในพื้นที่ จ.ยะลา โดยมี นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง นายวีรวัฒน์ ศิริกุลพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

 

 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า อุบัติเหตุทางถนนเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยมากกว่า 20,000 คนต่อปี ส่วนคนเดินถนนในประเทศไทย ถูกรถชนเสียชีวิต ติด TOP 10 โลก ครองอันดับหนึ่งในเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดเหตุจากถูกรถจักรยานยนต์ชน เห็นได้ชัดว่าความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นประเด็นใหญ่ของประเทศไทย รัฐบาลจึงได้กำหนดให้การสร้างความปลอดภัยทางถนนเป็นนโยบายสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด ลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างจริงจัง และต่อเนื่องทั้งช่วงปกติและช่วงเทศกาลสำคัญ โดยผ่านกลไกการทำงานของจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนถิ่น โดยชเฉพาะการสร้างความปลอดภัยทางถนนในระดับท้องถิ่น ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือเป็นภารกิจหลักที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิด “ตำบลขับขี่ปลอดภัย” เป็นฐานนำไปสู่ “อำเภอขับขี่ปลอดภัย”

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“จึงขอให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจังและต่อเนื่อง และให้ผู้นำชุมชน กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ดำเนินการร่วมกับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้มาตรการด้านสังคมและชุมชนอย่างเคร่งครัด เพื่อเฝ้าระวังตรวจตราป้องปรามและตักเตือนบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน และนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายระดับประเทศในการลดอัตราการเสียชีวิตให้เหลือ 12 คนต่อประชากรแสนคนภายในปี พ.ศ. 2570ควบคู่กับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด – 19 เพื่อนำไปสู่ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” นายนิพนธ์ กล่าว

 

 

นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ดำเนินการสำรวจออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ อ.เบตง โดยได้สั่งการสำนักงานที่ดินสาขาอำเภอเบตง ทำแผนการเดินสำรวจการออกโฉนดที่ดิน เพื่อจะได้บรรจุแผนดังกล่าวในปีงบประมาณ 2566 หลังจากเสร็จการประชุม ได้ให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่กองกำลังภาคประชาชน และได้ร่วมทาสีทางม้าลายบริเวณตู้ไปรษณีย์เบตงที่สูงที่สุด เนื่องจากบริเวณดังกล่าว หลังเปิดเมืองเบตงทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเช็กอิน เพื่อให้มองเห็นเด่นชัด พร้อมดำเนินการปรับปรุงป้ายเครื่องหมายสัญญาณเตือนก่อนถึงทางม้าลายให้มีความชัดเจน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในการใช้รถใช้ถนน

จากนั้นเวลา 13.00 น. ที่เทศบาลเมืองเบตง นายนิพนธ์ รมช.มหาดไทย เป็นประธานการประชุม การจัดการน้ำเสีย ในพื้นที่เทศบาลเมืองเบตง และร่วมเป็นสักขีพยาน ลงนามในบันทึกความร่วมมือการจัดให้มีระบบบำบัดน้ำเสียรวม (MOU) เทศบาลเมืองเบตง กับองค์การจัดการน้ำเสีย เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสีย รวมทั้งกิจกรรมต่อเนื่องอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยมีแนวคิดในการออกแบบระบบบำบัดน้ำเสียให้มีโครงสร้างใต้ดิน และออกแบบพื้นที่ด้านบน ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เป็นพื้นที่พักผ่อน เพื่อให้ประชาชน ได้มาใช้ประโยชน์ ในการออกกำลังกาย เช่นเป็นสนามฟุตบอลหญ้าเทียมกลางแจ้ง หรือให้ก่อเกิดประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่อย่างสูงสุด

 

 

 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า การดำเนินการขององค์การจัดการน้ำเสียในพื้นที่ เป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่มีความสำคัญและส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและการดำรงชีวิตของประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จัดเป็นหน่วยงานสำคัญในการจัดการสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ของตนเอง ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมสร้างศักยภาพให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ ตลอดจนข้อแนะนำในทางปฏิบัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดการน้ำเสีย เพื่อให้สามารถเร่งดำเนินการจัดการน้ำเสียในพื้นที่ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคของการจัดการน้ำเสียชุมชน

 

ต่อจากนั้น ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมด่านศุลกากรเบตง เพื่อรับฟังการบรรยายความพร้อมในการเปิดด่านรับนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียที่คาดการณ์ว่าจะเปิดด่านพรมแดนในอนาคตอันใกล้นี้เมื่อมีความพร้อม และได้เดินทางไปสนามบินเบตง เพื่อตรวจเยี่ยมในการเตรียมความพร้อม โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมท่าอากาศยาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพาตรวจสอบความพร้อมของสนามบิน อาคารผู้โดยสาร และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในท่าอากาศยาน ซึ่งการเปิดเที่ยวบินของท่าอากาศยานเบตง จะช่วยแก้ไขปัญหาการคมนาคมในพื้นที่ที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน ไม่สะดวกต่อการเดินทาง รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ และภาคธุรกิจการเกษตรโดยเฉพาะการขนส่งสินค้าเกษตรที่จะสามารถส่งถึงมือผู้บริโภคได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ส่งผลดีต่อประชาชนชาวเบตงและจังหวัดชายแดนภาคใต้ในแง่ของการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและรายได้สู่ภาคการเกษตรได้เป็นอย่างดี

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น