วันที่ 28 พ.ค. 64 พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.สนามพลังแผ่นดิน โพสต์เฟซบุ๊ก ข้อความว่า มีการเข้าใจผิดว่าตนรังเกียจนักโทษจึงไม่รับการส่งต่อนักโทษที่ป่วยด้วยโควิด-19 มายัง รพ.สนามพลังแผ่นดิน ขอเรียนให้ทราบว่าตนอนุมัติและสั่งการให้ รพ.มงกุฎวัฒนะรับการส่งต่อนักโทษที่ป่วยด้วยกรณีฉุกเฉินที่เป็นกรณีวิกฤตที่คุกคามต่อชีวิตนักโทษและเป็นกรณีที่เกินขีดความสามารถของ รพ.เรือนจำ กรมราชทัณฑ์ ที่ไม่สามารถส่งตัวไปยัง รพ.ตำรวจ ได้ตามสายการส่งต่อนักโทษ
ทั้งนี้ตนสั่งการให้รพ.มงกุฎวัฒนะรับตัวนักโทษที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตมาทำการผ่าตัดหรือรักษาฉุกเฉิน เช่น กรณีศัลยกรรมฉุกเฉิน ฯลฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 จวบจน พ.ศ.2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 มานานกว่า 4 ปีแล้ว โดยเมื่อนักโทษเหล่านี้พ้นขีดอันตรายแล้ว รพ.เรือนจำ กรมราชทัณฑ์ ก็จะรับตัวกลับไปทำการรักษาต่อใน รพ.เรือนจำ กรมราชทัณฑ์ อย่างทันที หากไม่เชื่อสามารถสอบถามได้จาก นพ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งในปี พ.ศ.2558 ท่านเป็น ผอ.รพ.เรือนจำ กรมราชทัณฑ์ ดูก็ได้
พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าวอีกว่า ตนเคยโพสต์ข้อความที่มีสาระว่า ถึงแม้จะเป็นนักโทษบนแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรนี้ แต่เขาเหล่านั้นก็ได้รับผิดตามกระบวนการยุติธรรมแล้ว ดังนั้นชีวิตนักโทษที่ยังดำรงอยู่บนแผ่นดินแห่งราชอาณาจักร ภายใต้ร่มพระบารมีแห่งองค์พระมหากษัตริย์เจ้า รพ.มงกุฎวัฒนะก็จะทำหน้าที่รักษาชีวิตเท่าที่จะพึงกระทำได้โดยไม่แบ่งแยกว่าเขาเหล่านั้นจะเป็นนักโทษหรือไม่ ดังนั้น รพ.สนามพลังแผ่นดินก็จะรับการส่งต่อนักโทษที่อาการวิกฤตเกินขีดความสามารถของ รพ.เรือนจำ กรมราชทัณฑ์ ซึ่งนักโทษที่อาการวิกฤตเหล่านี้ไม่สามารถหลบหนีออกจาก รพ.สนามพลังแผ่นดินได้ ทุกรายต้องอยู่ใน ไอ ซี ยู สนาม ไม่สามารถลุกขึ้นจากเตียงได้
ดังนั้นจึงไม่ต้องวิตกว่านักโทษที่ป่วยด้วยโควิด-19 ที่ รพ.สนามพลังแผ่นดิน นั้นจะหนีคุก และถ้า รพ.สนามพลังแผ่นดิน รักษาจนรอดชีวิตแล้ว ก็จะส่งตัวกลับ รพ.เรือนจำดังที่เคยปฏิบัติอย่างเป็นประจำในทันที ส่วนนักโทษที่ป่วยโควิด-19 อาการไม่วิกฤตจะอยู่ใน รพ.สนามเรือนจำ อยู่แล้ว รพ.สนามพลังแผ่นดินเพื่อพสกนิกรใต้ร่มพระบารมีโดยไม่แบ่งแยกชีวิต ได้โปรดเข้าใจอย่างถูกต้องว่าตนไม่เคยรังเกียจนักโทษ แต่รังเกียจอริราชศัตรูเท่านั้น และถึงแม้จะพูดว่า “ผมไม่รักษาควายในร่างคน” แต่ก็ไม่เคยปฏิเสธการรักษาใครตามที่พูดเลยแม้แต่คนเดียว