“หมอมนูญ” ชี้โควิด “โอมิครอน” จะค่อยๆ หมดฤทธิ์! ย้ำผู้ที่เคยติดอย่าประมาท มันติดซ้ำได้

“หมอมนูญ” ชี้โควิด “โอมิครอน” จะค่อยๆ หมดฤทธิ์! ย้ำผู้ที่เคยติดอย่าประมาท มันติดซ้ำได้

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบบทางเดินหายใจ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทย กรณีมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เคยติดเชื้อมาแล้วจะกลับมาติดเชื้อซ้ำได้อีกว่า มีความเป็นไปได้สูง เพราะสายพันธุ์ “โอมิครอน” เป็นสายพันธุ์ที่มีความสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันของมนุษย์ได้ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เคยฉีดวัคซีนหรือไม่ก็ตาม จะสามารถติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้อีก เพียงแต่ว่าผู้ที่ติดเชื้อซ้ำสายพันธุ์โอมิครอนนั้น อาการจะไม่หนัก หรือบางคนอาจจะไม่มีอาการด้วยซ้ำ ส่วนข้อสังเกตที่ว่า เมื่อติดเชื้อโควิด-19 แล้ว หลังจากนั้น 1-3 เดือน ภูมิต้านทานจะขึ้นสูง สามารถต้านทานการติดเชื้อซ้ำในช่วงเวลานั้นได้หรือไม่ นพ.มนูญ กล่าวว่า การที่ภูมิขึ้นสูงหรือไม่ก็ตาม ไม่เป็นอุปสรรคของโอไมครอน เพราะเชื้อนี้มีลักษณะโปรตีนที่ปุ่มหนาม (spike) ที่เปลี่ยนแปลงไป จากเชื้อโควิด-19 ตัวเดิมๆ ทำให้มีความสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ดีมาก เพราะฉะนั้นขออย่าประมาท

ส่วนอาการของผู้ที่ติดเชื้อ “โอมิครอน” ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 จะมีอาการเบากว่าการติดเชื้อสายพันธุ์อื่น ทั้งผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน หรือผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วก็จะมีอาการเบามากขึ้น

สำหรับอุบัติการณ์ของการติดเชื้อโควิด-19 เป็นครั้งที่ 2 นพ.มนูญ กล่าวว่า ในต่างประเทศพบว่ามีความถี่มาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เคยติดเชื้อตั้งแต่แรกเริ่ม สายพันธุ์อัลฟา เบตา แกมมา เดลตา ก็สามารถติดเชื้อสายพันธุ์ “โอมิครอน” ใหม่ได้ทั้งนั้น และยังอาจมีผู้ที่สามารถติดโควิด-19 ซ้ำเป็นครั้งที่ 3 ได้เช่นเดียวกัน แต่ นพ.มนูญ ย้ำว่า อย่าไปกลัวให้มาก เพราะเชื้อโอมิครอนอาจจะมาถึงเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เพราะถึงจะป้องกันตัวอย่างไร ใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ก็อาจจะมาถึงตัวเราได้ เพราะฉะนั้น ขออย่ากลัวหรือวิตกกังวลมากเกินไป เพราะเชื้อโอมิครอนลดความรุนแรงของตัวมันเองลงแล้ว

นพ.มนูญ ยังกล่าวถึงการที่ตนเคยออกมาเตือนเมื่อเดือนที่แล้วว่า ในไม่ช้าทุกคนต้องติดเชื้อโอมิครอน ซึ่งสอดคล้องกับประเทศสหรัฐอเมริกา ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญออกมาบอกเช่นกันว่า ในที่สุดคนอเมริกันทุกคนก็จะติดเชื้อ ช้าหรือเร็วเท่านั้น ประการสำคัญที่ควรระวัง คือ การที่ผู้ติดเชื้อโอมิครอนไม่แสดงอาการ จึงสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้ง่าย ที่น่าห่วง คือ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง คนไม่เคยฉีดวัคซีน อาจทำให้คนเหล่านี้ป่วยหนัก

นพ.มนูญ ยังให้ความเห็นถึงการที่ไทยจะเริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุ 5-11 ปีว่า ก็จะยิ่งเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้เด็ก เพราะจะได้ไม่มีอาการรุนแรง หรืออาจติดเชื้อแบบไม่มีอาการด้วยซ้ำ
สำหรับข้อระมัดระวังในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้ “หมอมนูญ” แนะให้หลีกเลี่ยงไม่เข้าไปในที่ที่มีคนรวมตัวกันแออัด อากาศถ่ายเทไม่ดี ควรรอให้ผ่านช่วงเดือนเมษายนไปแล้ว ซึ่งตนคาดว่าสถานการณ์จะปกติ ดีขึ้น เพราะนอกจากเป็นช่วงฤดูร้อนแล้ว ผู้คนจำนวนมากก็จะมีภูมิคุ้มกันจากโอมิครอนกันมากพอสมควร นำไปสู่การที่ไม่มีความจำเป็นที่เราทุกคนต้องได้รับวัคซีนเข็มที่ 4 ให้เฉพาะผู้ที่ได้วัคซีนแอสตราเซเนกา 2 เข็ม ตามด้วยเข็ม 3 เป็นไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา ก็จะเพียงพอแล้ว ไม่ต้องการการกระตุ้นเพิ่ม ยกเว้นคนที่ฉีดซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ตามด้วยแอสตราเซเนกา เข็ม 3 อาจต้องได้รับเข็มที่ 4 เป็นไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา.

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วันแรกสมัคร สส.พัทลุงคึกคัก กองเชียร์แน่น ภาคพลเมืองรณรงค์สุจริต
"บิ๊กเล็ก" แจง 3 เงื่อนไขหยุดยิง เปิดโอกาสใช้สันติวิธีผ่านเวทีการทูต ปืนใหญ่ไทยทิ้งทวน ถล่มกาสิโน "อุดรมีชัย" หนักหน่วง
“เดชอิศม์” ชี้ครอบครัวขาวทอง ยึดประชาธิปไตย แม้ลูกต่างพรรค
กกต.ภูเก็ตเปิดรับสมัคร สส. วันแรก
สมัคร สส.ชลบุรี วันแรกคึกคัก พรรคใหญ่ส่งครบทุกเขต กองเชียร์แน่น
เบตงคึกคักรับปีใหม่ นักท่องเที่ยวไทย–มาเลย์ แห่เช็คอิน Betong Night Light 2026

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​