นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า วาระการประชุมสภาฯวันนี้ พิจารณาพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามที่คณะรัฐมนตรี ได้ให้ความเห็นชอบบังคับใช้ตามกฎหมาย และเสนอมายังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาก่อน
ประธานสภาฯ กล่าวว่า ส่วนพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาทนั้น สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ยังส่งพระราชกำหนดดังกล่าวไม่ถึงสภาผู้แทนราษฎร ขณะนี้จึงต้องพิจารณาทั้ง 2 วาระที่กำหนดมาแล้วก่อน ตามที่วิป 3 ฝ่ายตกลงคือ พิจารณาวันที่ 27-28 พฤษภาคม แบ่งเวลาฝ่ายละ 3 ชั่วโมง แต่ทั้งหมดอยู่ที่ว่าจะใช้เวลาครบหรือไม่ จบเมื่อไหร่ก็จบเมื่อนั้น โดยวันนี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 น. จนถึงเกิน 24.00 น. และพรุ่งนี้เริ่มในเวลา 09.00 น.
นายชวน กล่าวว่า ส่วนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 จะพิจารณาวันที่ 31 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน แบ่งฝ่ายอภิปรายฝ่ายละ 22 ชั่วโมง ทั้งนี้ หากพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาทส่งมาถึงเมื่อไหร่ ก็บรรจุทันที แต่ต้องพิจารณาหลังจากพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณแล้วเสร็จก่อน
ประธานสภาฯ ยังกล่าวถึงมาตรการดูแลป้องกันโควิดสำหรับการประชุมระยะยาว ว่า ให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย แต่หากสมาชิกใดต้องใช้เวลาอภิปรายนานแล้วทำให้อึดอัดในการสวมหน้ากาก ก็ได้จัดเตรียมพื้นที่เฉพาะสำหรับการอภิปราย เพื่อความสะดวกและปลอดภัย นอกจากนี้ สมาชิกที่ไม่ได้อภิปรายสามารถรับฟังการถ่ายทอดการอภิปรายอยู่ที่ห้องพักได้ และห้องพัก ส.ส.วันนี้ถือว่า มีความพร้อม ยกเว้นเวลาลงมติที่จะต้องเข้ามาภายในห้องประชุม แต่ก็ได้ให้เวลาในการลงมติเพิ่มมากขึ้น ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่า การอภิปรายจะเกิดละอองฝอยนั้น กรมควบคุมโรคได้ตรวจสอบแล้วพอใจเนื่องจากมีโดมสูงและมีการระบายอากาศที่ดี แต่ก็ขอให้สวมหน้ากากอนามัยตลอด
ทั้งนี้ ไม่ได้ห้ามการประชุมกรรมาธิการ แต่ต้องจำกัดจำนวนคน และสวมหน้ากากอนามันตลอดเวลา เพราะไม่รู้ว่าวิกฤติจะหมดไปเมื่อไหร่ อย่าให้วิกฤติเป็นปัญหาตัวถ่วงการทำงาน จะรอให้โรคนี้หายไปแล้วค่อยทำงานไม่ได้ เราก็ต้องปรับตัวเองในการทำงานช่วงสถานการณ์เช่นนี้ ด้วยพยายามป้องกันตัวเอง 100%
ผู้สื่อข่าวรายงานมาตรการป้องกันโควิด-19 ของรัฐสภาว่า ยังคงเข้มข้น บุคคลที่จะเข้ามาภายในอาคารรัฐสภาจะต้องมีบัตรประจำตัวและต้องเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมเท่านั้นรวมถึงต้องกรอกแบบคัดกรองเชื้อโควิดก่อนล่วงหน้า ซึ่งจะมีคำถามที่ระบุชัดถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมถึงสแกนแอปพลิเคชั่นไทยชนะ หมอ ชนะ ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้ามาภายใน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และรักษาระยะห่าง ขึ้นลิฟท์ไม่เกิน6 คน
ในส่วนของ ส.ส.จะไม่ อนุญาตให้ส.ส. ถอดหน้ากากอนามัยระหว่างการอภิปรายในห้องประชุมวันนี้ (27 พ.ค.) นั่งเก้าอี้เว้นระยะห่าง คนติดตาม1คน คนขับรถ1 คน จัดอาหารรับรองเปลี่ยนจากบุฟเฟต์ เป็นเซ็ตบ็อกซ์ทุกมื้อ และกำหนดเส้นทางเข้าออกห้องประชุมเป็นการเฉพาะ
ขณะที่ ข้าราชการและพนักงานของรัฐสภาให้มาปฏิบัติงานเพียงร้อยละ 30 โดยให้ทำงานที่บ้านร้อยละ 70 พร้อมกำหนดให้รับประทานอาหารในที่ทำงานของตนเองเท่านั้น ส่วนสื่อมวลชนจำกัดสื่อทีวีสำนักข่าวละ1 ทีม ส่วนหนังสือพิมพ์และอื่น ๆ สำนักละ 1 คน ผู้ไม่มีบัตรไม่ให้เข้าและงดแลกบัตร รวมถึงงดบันทึกภาพภายในห้องประชุม
ส่วนข้อกังวลเรื่องแคมป์คนงานรัฐสภา ที่มีผู้ติดเชื้อโควิดจำนวนมาก ล่าสุดรัฐสภาไม่ให้คนงานในแคมป์ดังกล่าว เข้ามาภายในรัฐสภา แต่ยังคงมีบริษัทที่รับช่วงต่อส่งคนงานเข้ามาปฏิบัติงานในส่วนที่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเก็บรายละเอียดภายนอกอาคาร
