“รพ.รามาฯ” ชี้เริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ โควิดจะจบเกม!

"รพ.รามาฯ" ชี้เริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ โควิดจะจบเกม!

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ว่า เริ่มได้เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์กันแล้ว สำหรับไวรัสโควิด-19 ซึ่งการตรวจสายพันธุ์โควิด-19 จากโรงพยาบาลรัฐ และ เอกชน ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 3-16 มกราคม 2565 พบโอมิครอน 97.1% เดลตา 2.8% และตัวอย่างสุ่มตรวจจากเรือนจำ เดลตา 100% ซึ่งนั่นหมายถึงในกรุงเทพฯ หากไม่นับในเรือนจำ “โอมิครอน” น่าจะเข้ามาแทนที่ “เดลตา” เกือบหมดแล้ว หรือการติดเชื้อสองสายพันธุ์ ระหว่าง “โอมิครอน” และ “เดลตา” ไปพร้อมกันในระยะเวลาสั้น ๆ ได้จบลงแล้ว และไม่นาน “โอมิครอน” คงจะกระจายไปทั่วประเทศ ไม่ช้าคงเป็นตามที่ ดร.แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและภูมิแพ้แห่งชาติของสหรัฐฯ ได้เตือนว่า “ในที่สุดแทบทุกคนจะติดเชื้อไวรัสโอมิครอน” จากนั้นทั้งภูมิคุ้มกันจากวัคซีน และจากการติดเชื้อตามธรรมชาติจะพุ่งขึ้นสูง ลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 และลดอัตราการเสียชีวิตลงอย่างรวดเร็ว เห็นปรากฏการนี้ได้อย่างชัดเจน จากข้อมูลผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตทั่วโลกจากโอมิครอน

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแอฟริกาใต้ ลดลงจนเข้าสู่สภาวะปกติ ในขณะที่ผู้เสียชีวิตไม่มาก มีประชากรติดเชื้อไวรัสจากธรรมชาติเป็นจำนวนมาก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอังกฤษ เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผู้เสียชีวิตไม่มาก อังกฤษใช้วัคซีนไวรัสเป็นพาหะ และเข็มกระตุ้นเป็นวัคซีนสารพันธุกรรม หรือ mRNA ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ใกล้ถึงจุดสูงสุดใน 1-2 อาทิตย์ข้างหน้า ในขณะที่ผู้เสียชีวิตไม่มาก อเมริกาใช้วัคซีน mRNA เป็นวัคซีนนำสองเข็มแรก และใช้เป็นเข็มกระตุ้นด้วย ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย รวมทั้งอิหร่าน ที่มีการติดเชื้อจากธรรมชาติในอัตราสูงนำมาก่อน ก่อนจะมารับวัคซีนเชื้อตาย และสลับมารับวัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะหรือ วัคซีน mRNA เป็นเข็มกระตุ้น พบว่าได้ผลดีมาก มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากโอมิครอนและผู้เสียชีวิตต่ำ ประเทศไทยมีการติดเชื้อจากธรรมชาติไม่มาก ได้รับวัคซีนเชื้อตาย และสลับมารับวัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ หรือ วัคซีน mRNA เป็นเข็มกระตุ้น ได้ผลดีเช่นกัน แม้จะเห็นผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นจากโอมิครอน แต่ผู้เสียชีวิตลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และหากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไวรัสโคโรนา 2019 คงจะจบเกม กลายเป็นโรคประจำถิ่นเหมือนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมาตามฤดูกาล โดยมีผู้เสียชีวิตประมาณร้อยละ 0.1

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชุดปกครองอำเภอวังวันทร์ จ.ระยอง ล่อซื้อยาไอซ์ “ไอ้ตี๋” ขายแต่ไอซ์ ประวัติจำคุกยาบ้า 2 ครั้ง
"เกรียงยศ" โพสต์เดือด "พีระพันธุ์" โผล่ร่วมเฟรมนายกฯ หนุนเดินหน้าบริหารประเทศ ลั่นเป็นตัวแทนสส.แค่ 18 คน
"อิหร่าน" ฟาด "สหรัฐฯ" ทรยศการทูต-หักหลังชาวอเมริกัน ปมโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน
"ฮุน มาเนต" ยกระดับโต้ สั่งระงับนําเข้า "น้ำมัน - ก๊าซ" จากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้
"สื่อกัมพูชา" รีบโต้วุ่น ยัน "ปอยเปต" มีไฟฟ้าใช้ ไม่ขาดแคลนน้ำมัน หลังยกเลิกนำเข้าจากไทย
"โฆษกทบ." สวน "กัมพูชา" กิจกรรมปั่นจักรยาน เยี่ยมชมตาเมือนธม ไม่ได้ละเมิดข้อตกลง ตั้งในพื้นที่เขตไทย ย้ำปมปิดช่องสายตะกู ปรับให้สอดคล้องแนวทางศบ.ทก.
"แม่ทัพภาคที่ 2 " แจงย้ำ เหตุจำเป็นปิดด่าน ไทย-กัมพูชา ยันยึดหลักมนุษยธรรม ดูแลผู้เจ็บป่วยรักษาฝั่งไทย กำชับชาวเขมรห้ามแสดงสัญลักษณ์
"ก่อแก้ว" โพสต์ภาพ "นายกฯ" ร่วมหน.พรรค พร้อมหยันเสียใจด้วย คนอยากให้รัฐบาลล้ม "ไผ่ ลิกค์" ลั่นอบอุ่นกว่าเดิม
ระยอง จับกุมขบวนการขนยาข้ามชาติ เตรียมส่งออกนอกราชอาณาจักรไทย มูลค่ามูลค่ากว่า 400 ล้าน
"กรมการค้าต่างประเทศ" เปิด 10 รายชื่อสินค้ายอดนิยม "กัมพูชา" สั่งนำเข้าจาก "ไทย"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น