เพจ “กฎหมายแรงงาน” ไขสงสัย ไม่รับปริญญา ไม่รับทำงานได้หรือไม่?

เพจ "กฎหมายแรงงาน" ไขสงสัย ไม่รับปริญญา ไม่รับทำงานได้หรือไม่?

เฟซบุ๊กเพจ “กฎหมายแรงงาน” โพสต์ข้อความระบุว่า จากการที่แพทย์หญิงท่านหนึ่งออกมาโพสต์ “ไม่เข้ารับปริญญา ระวังเขาจะไม่รับเข้าทำงาน” ส่งผลให้เกิด #ไม่รับปริญญา

และยังได้กล่าวถึงการดูโทรศัพท์ ซึ่งถือเป็นการล่วงล้ำเข้าไปทำลายความเป็นส่วนตัว โดยเอาเงื่อนไขการรับสมัครงาน ซึ่งการไม่เข้ารับปริญญาอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ไม่มีเงิน เพราะการรับปริญญามีค่าใช้จ่ายมากพอสมควร หรือหลายอาจเรียนเพื่อต้องการความรู้แต่ก็ไม่ได้สนใจเข้ารับปริญญา โดยปกติมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาจะเปิดให้ลงทะเบียนว่าใครจะเข้ารับปริญญาบ้าง และใครจะไม่เข้ารับปริญญา ซึ่งก็เป็นการให้สิทธิหรือเสรีภาพที่จะเข้ารับหรือไม่

ส่วนจะรับปริญญากับใครก็สุดแล้วแต่ อย่างต่างประเทศก็อาจรับกับอธิการบดี ในไทยหากเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐก็อาจรับกับราชวงศ์ มหาวิทยาลัยเอกชนส่วนใหญ่ก็รับกับอธิการบดี หรือผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งการวางกติกาว่า หากใครไม่เข้ารับปริญญาจะไม่รับเข้าทำงานนั้นถือว่าผิดธรรมชาติการรับคนเข้าทำงานที่จะต้องพิจารณาจากความรู้ความสามารถ หรือทัศนคติ และการไม่เข้ารับปริญญาก็ไม่ได้หมายความว่าบุคคลเหล่านั้นจะมีทัศนคติที่ไม่ดีเสมอไป

ขณะเดียวกัน แม้มีการกำหนดกติกาการรับสมัครงานเอาไว้แต่เมื่อตราบใดที่ยังไม่มีสถานะเป็นลูกจ้าง ก็ไม่อาจนำกฎหมายคุ้มครองแรงงานเข้าไปใช้บังคับได้ แต่เมื่อเปิดรัฐธรรมนูญมาดูเราก็จะพบกับหลักการห้ามเลือกปฎิบัติงถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นในทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลักการเหล่านี้ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อไม่ให้เกิดการใช้อำนาจตามอำเภอใจ

การเลือกปฎิบัติและทัศนคติที่มองคนเห็นต่างเป็นศัตรูย่อมเป็นอันตรายต่อความก้าวหน้าของสังคม จริง ๆ แล้วตราบาปที่ถูกบันทึกไว้จากการเลือกปฎิบัติในสังคมไทย มีหลายกรณี ดังนี้

1. การเลือกปฎิบัติเพราะความแตกต่างในเรื่องเพศ เกิดกรณีบริษัทได้กำหนดให้ลูกจ้างหญิงเกษียณอายุ 55 ปี ลูกจ้างชายเกษียณ 60 ปี ซึ่งเป็นการเลือกปฎิบัติกรณีเกษียณเพราะเหตุความแต่งต่างในเรื่องเพศ ส่งผลให้การกำหนดอายุการเกษียณของเพศหญิงเป็นโมฆะ (คำพิพากษาที่ ๒๑๒๗/๒๕๕๕)
2. การเลือกปฎิบัติเพราะความพิการทางร่างกาย เคสนี้ น่าตกใจมากเพราะเกิดขึ้นจากการกระทำของผู้บังคับใช้กฎหมายเอง เรียกว่า “ความพิการของกฎหมายและผู้บังคับใช้กฎหมาย” โดยเป็นกรณีการเลือกปฎิบัติต่อผู้พิการในการสอบเป็นผู้ช่วยอัยการ (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. ๑๔๒/๒๕๔๗) และการตัดสิทธิทนายโปลิโอในการเข้าสอบผู้ช่วยผู้พิพากษา
3. การเลือกปฎิบัติเพราะผลการเรียนเป็นกรณีที่เกิดกับการเลือกรับราชการ โดยรับเฉพาะเกียรตินิยม คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด และน่าตกใจที่แนวคิดการเลือกปฎิบัติอันเกิดจากการไม่เข้ารับปริญญา ขอเถอะจงเลือกจากความสามารถและคุณค่าในตัวเขา

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เหลี่ยมจัด “ฮุนเซน” แนะเจ้าของปั้มกัมพูชา หยุดซื้อน้ำมันไทย ให้นำเข้าจากแหล่งอื่น แต่ไม่ต้องเปลี่ยนชื่อ
“เฉลิมชัย” สั่งการ อส. ปม. เร่งแก้ปัญหาชุมชนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ตามมาตรา 64 และ 121 พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้ประชาชนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน
ดิโอโก้ โชต้า นักเตะลิเวอร์พูลเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์
เริ่มแล้ว งานมหกรรมถนนอาหาร "อุดรเลิศรส" พร้อมเสิร์ฟเมนูเด็ด ทั้งอาหารคาว-หวานและเครื่องดื่ม สายกินต้องไม่พลาด
ช็อกวงการลูกหนัง! ดิโอโก้ โชตา ดาวยิงลิเวอร์พูล เสียชีวิตกะทันหันในอุบัติเหตุสุดสลด
ลุ้นป่วยจริงหรือปลอม พรุ่งนี้ ศาลฎีกา นัดไต่สวนกลุ่มแพทย์-พยาบาล ร่วมดูแล รักษา "ทักษิณ" ชั้น14
"สภาองค์การนายจ้างฯ" ครบรอบ 48 ปี มุ่งยกระดับแรงงานไทย รับมือเปลี่ยนแปลงสู่ยุค AI
“เดชอิศม์” เข้ามหาดไทยพรุ่งนี้ พร้อมดูแลทุกกรม-บำบัดทุกข์บำรุงสุขปชช. มั่นใจเสถียรภาพรัฐบาลมั่นคง
จีนประกาศเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลันทางเหนือ-ตะวันตก
สวนสัตว์เปิดเขาเขียวจัดใหญ่ “ฉลองวันเกิดหมูเด้ง” อายุ 1 ขวบ เด็กเที่ยวฟรี 4 วันเต็ม 10–13 ก.ค.นี้!

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น