นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ TOPNEWS ว่า ในปีนี้ ราคาผลไม้ดีมาก ดีเกือบจะเรียกว่าเฉลี่ยทุกตัว และทำรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก โดยปี 2564 สินค้าผลไม้ทั้งหมดคาดการณ์ว่าจะเติบโต 15% มีมูลค่าประมาณ 1.5 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่ 1.3 แสนล้านบาท
โดย 4 เดือนแรกปีนี้ ทำรายได้จากการส่งออกผลไม้แล้วเกือบ 5 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ข้าว รมว.พาณิชย์ ยังยืนยันเป้าหมายการส่งออกข้าวทั้งปี 2564 ไว้ที่ 6 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขขณะนี้ก็ยังต่ำอยู่ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทำงานร่วมกับผู้ส่งออกข้าว โดยใกล้ชิดมาตลอดระยะเวลา แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เป้าก็ยังไม่ได้เปลี่ยน และพยายามที่จะทำให้ดีที่สุด มีตัวเลขส่งออกข้าวตัวเดียว ที่คิดว่ายังน้อยอยู่ นอกนั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและดีมาก เกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ การส่งออกข้าวที่ลดลง เพราะ หนึ่ง ความหลากหลายของพันธุ์ข้าวน้อยลงเรื่อยๆ ขณะที่คู่แข่งอย่างเวียดนามมีความหลากหลายของพันธุ์ข้าวเยอะ และพันธุ์ข้าวของเขาตรงกับความต้องการของตลาด เพราะตลาดมีแนวโน้มบริโภคข้าวนุ่มมากขึ้น ซึ่งข้าวไทยเป็นพื้นข้าวแข็ง เพราะฉะนั้น ไทยต้องหันมาปลูกข้าวนุ่มมากขึ้น ซึ่งยุทธศาสตร์ข้าวไทย ที่เพิ่งเคาะไปและผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) แล้ว มีการกำหนดยุทธศาสตร์ชัดเจนว่า ถัดจากนี้ไป 5 ปี เราจะเน้นการพัฒนาพันธุ์ และปลูกข้าวนุ่มมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตามยุทธศาสตร์ ”ตลาดนำการผลิต”
เหตุผลข้อสอง คือ เรื่องของราคา เพราะว่าต้นทุนข้าวของไทยแพงกว่าประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะราคาข้าวในประเทศ เมื่อเทียบกับราคาข้าวในประเทศคู่แข่ง
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยอีกด้านหนึ่งที่ทำให้เราแข่งราคาไม่ได้ คือค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา ที่ค่อนข้างแข็ง แต่ว่าตอนนี้ก็ดีขึ้นบ้าง เพราะค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลง ทำให้สามารถแข่งราคาได้บ้างในบางเวที บางตลาด บางกรณี
วานนี้(25 พ.ค.) สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) แถลงข่าว “ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย ประจำเดือนเมษายน 2564 ระบุว่า การส่งออกข้าวไทย เดือนม.ค.-เม.ย.64 ลดลง 32.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยราคาข้าวของไทยยังสูงกว่าคู่แข่งที่สำคัญ โดยเฉพาะอินเดีย ซึ่งมีราคาข้าวขาวและข้าวนึ่งต่ำสุดในตลาด