เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์การติดเชื้อโอมิครอนของไทยจากคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ว่า ในส่วนของจ.กาฬสินธุ์ยกให้เป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ เนื่องจากเคสนี้พบการติดเชื้อไปกว่า 200 คน ไปในพื้นที่ภาคอีสานเกือบทั้งหมด และไปภาคเหนือบางจังหวัด โดยกระจายไปใน จ.กาฬสินธุ์ มหาสารคม ร้อยเอ็ด อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร อุบลราชธานี เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ลำปาง ลำพูน โดยในกาฬสินธุ์จังหวัดเดียว มี 14 อำเภอ พบคนติดเชื้อไป 11 อำเภอ
ทั้งนี้ สาเหตุการติดเชื้อที่อยากยกตัวอย่างไว้เป็นอุทาหรณ์นั้น มาจากพฤติกรรมการพบปะที่ไปสังสรรค์ในสถานที่แออัดอากาศไม่ถ่ายเท โดยหลังจากทาง ศบค. อนุโลมมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในร้านอาหาร ทำให้ผับ บาร์ ผันตัวมาปรับร้านให้เป็นร้านอาหารแทน บางร้านสามารถทำได้ตามมาตรการที่กำหนด แต่บางร้านทำไม่ได้ตามมาตรฐาน
นพ.โอภาส กล่าวว่า เคสคลัสเตอร์กาฬสินธุ์พบเดินทางไปในร้านอาหารลักษณะนี้ด้วยกัน 2 ร้าน เป็นร้านดังที่คนต้องมา พบว่ามีการติดเชื้อโอไมครอนทั้งร้าน ทั้งลูกค้า พนักงาน นักดนตรี เนื่องจากเป็นร้านที่มีดนตรีเล่นทำให้มีการใช้บริการนาน พนักงานไม่ตรวจATK ป่วยก็ไม่หยุด กินอาหารร่วมกัน สภาพในร้านแออัด สัดส่วนของลูกค้าและโต๊ะ คนใช้บริการ 80% อากาศไม่ถ่ายเท ส่วนบาร์ เอส พบว่าไม่มีการติดเชื้อเลยเพราะมีการจำกัดการให้บริการ แค่ 3 ชม. พนักงานตรวจ ATK ไม่มีการแสดงดนตรีสด
“เช่นเดียวกันเคสนักศึกษามหาวิทยาลัยใน กทม.พบการติดเชื้อในร้านอาหาร ที่มีติดเชื้อถึง 52 คน และพบเชื้อในเครื่องปรับอากาศ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ก็เหมือนกับเคสที่ ASQ ที่พบการติดเชื้อที่ฟิตเนส ดังนั้นอากาศที่ถ่ายเทถือเป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการได้ ก็ควรเลือกสถานที่ที่ไม่แออัด อากาศถ่ายเท มีการเว้นระยะห่าง หากไม่ไปในสถานที่เสี่ยง ไม่ทำกิจกรรมเสี่ยงก็ไม่ติดเชื้อ สถานที่ไหนแออัดก็เลี่ยงการใช้บริการ ในร้านอาหารต้องหมั่นทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ หรือเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท นาน 2-3 ชม. เช่นเดียวกับรถโดยสารสาธารณะ หากวิ่งนานเกิน 4 ชม. ก็ต้องหยุดทำความสะอาดและเปิดให้อากาศถ่ายเท”นพ.โอภาส กล่าว

