ผู้เสียหาย ร้องท็อปนิวส์!! ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก สูญเงิน 17 ล้านบาท

ผู้เสียหาย ร้องท็อปนิวส์!! ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก สูญเงิน 17 ล้านบาท

นายยศวินทร์ เพียรพิทักษ์ หนึ่งในผู้เสียหาย ระบุว่าตนถูกหลอกจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่อ้างว่ามาจากบริษัทขนส่งสินค้า DHL และแจ้งว่าพัสดุที่ถูกส่งไปยังประเทศจีนในชื่อของตน ได้ถูกศุลกากรตรวจพบว่าเป็นของสิ่งผิดกฎหมาย จากนั้นได้แจ้งให้กด 0 เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัท เพื่อรับทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งตนแน่ใจว่าไม่ได้เป็นคนส่งพัสดุดังกล่าวอย่างแน่นอน จึงสันนิษฐานว่าน่าจะมีคนแอบอ้างนำชื่อของตน ไปใช้ในการส่งพัสดุ

ซึ่งเชื่อว่าแก๊งคอลเซนเตอร์กลุ่มนี้ทำกันเป็นขบวนการ มีทั้งปลอมเป็นคอลเซ็นเตอร์ เป็นพนักงาน DHL และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยใช้กลวิธีหลอกล่อทางโทรศัพท์ว่ามีพัสดุที่มีสิ่งของผิดกฎหมาย และบอกว่ามีพฤติกรรมฟอกเงิน เพื่อล้วงข้อมูลและอ้างว่าจะอายัดบัญชี พร้อมทั้งออกหมายจับ

สูญเงินจนเกลี้ยงบัญชีกว่า 2 ล้านบาท โดยนายญยศวินทร์ได้นำหลักฐานของผู้เสียหาย ที่รวบรวมมาทั่วประเทศได้อีกเกือบ 50 ราย ที่ถูกมิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกในลักษณะเดียวกัน และแจ้งความไว้ทั่วประเทศ รวมเงินมูลค่าความเสียหายกว่า 17 ล้านบาท

เช่นเดียวกับนางสาวขวัญฤดี ก็กูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้หลอกเช่นกัน และมีพฤติการเหมือนกับกรณีของนายยศวินทร์ทุกประการ ไม่เพียงเท่านั้นมิจฉาชีพกลุ่มนี้ยังอ้างว่าเจ้าของบัญชีได้ขายสมุดบัญชีของตนเอง เพื่อร่วมลงทุนแบบผิดกฎหมาย โดยชายที่อ้างเป็นตำรวจ ได้ใช้คำพูดหว่านล้อมให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ และยินยอมให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินสดของเธอ

เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการฟอกเงิน โดยต้องโอนเงินสดที่มีอยู่ในบัญชีทั้งหมดทางอินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง ไปยังบัญชีของเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบโดยบอกว่าหลังจากโอนเงิน ฝ่ายตรวจสอบจะโอนเงินกลับเพื่อคืนเงิน ทำให้เธอต้องตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ และสูญเงินนับแสนบาท

ปรากฏหลังจากเธอตกเป็นเหยื่อจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ แต่คดีดังกล่าวไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด และต่อมาจากการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว จึงพบผู้เสียหายจากกรณีเดียวกันเดือบทั่วประเทศ จากนั้นจึงได้ตั้งกลุ่มไลน์พูดคุยกันถึงทางออกในการดำเนินคดี เบื้องต้นมีผู้เสียหายเกือบ 50 คน

ที่มีการแจ้งความไว้ทั้งในพื้นที่ เชียงใหม่ , เชียงราย , กรุงเทพมหานคร , นนทบุรี , ปทุมธานี , สมุทรปราการ , ฉะเชิงเทรา , ชลบุรี , ขอนแก่น , อุบลฯ , ยะลา , สุราษฎร์ธานี และอีกหลายจังหวัด อีกทั้งคาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ยังไม่ปรากฎ

ด้าน DHL บริษัทขนส่งชื่อดังประกาศเตือนภัยกลโกงมิจฉาชีพแอบอ้างเป็น DHL Express เพื่อหวังข้อมูลส่วนบุคคลหรือทรัพย์สิน ซึ่งทางบริษัทฯยืนยันว่า ไม่มีนโยบายติดต่อหาลูกทางโทรศัพท์ในรูปแบบระบบอัตโนมัติ โดยทาง DHL ระบุว่า ขณะนี้มีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อ DHL หรือ DHL Express เพื่อหวังข้อมูลส่วนบุคคลหรือทรัพย์สิน โดยใช้อุบายหลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและเสียทรัพย์

บริษัทฯ ขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าว และสงวนสิทธิในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้นำชื่อหรือเครื่องหมายการค้าไปกระทำผิดอย่างถึงที่สุด กรุณาอย่าหลงเชื่อ อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวหรือโอนเงินกับผู้ที่โทรศัพท์มา สิ่งที่ต้องทำคือ วางสายทันที ทั้งนี้หากเกิดเหตุความเสียหาย กรุณารวบรวมหลักฐานแจ้งความ ณ สถานีตำรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สอบสวนและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด

กลอุบายของแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะพบพฤติการณ์ดังนี้
– โทรมาในรูปแบบระบบอัตโนมัติ อ้างว่าพัสดุของคุณถูกตีกลับ และให้กดหมายเลขเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
– โทรแจ้งว่าพัสดุต่างประเทศติดศุลกากรจัดส่งไม่ได้ ต้องแอดไลน์หรือโอนเงินเข้าบัญชี ส่วนตัว เพื่อเคลียร์ของ
– โทรแจ้งว่ามีการจัดส่งของรางวัล หรือเงินสดจากต่างประเทศถึงคุณและอยู่ในระหว่างจัดส่งแต่ต้องชำระภาษีและค่าขนส่ง ทั้งที่ไม่ได้มีประวัติการรับส่งพัสดุดังกล่าว
– โทรเข้ามากล่าวหาว่า ส่งของผิดกฎหมายและหลอกให้โอนเงินเพื่อเคลียร์คดี หรือโอนสายให้เคลียร์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางโทรศัพท์
– กล่าวหาว่าคุณเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน มีประวัติส่งพาสปอร์ต บัตร ATM ไปประเทศจีน ฯลฯ

ส่วนข้อสังเกตสำคัญที่รู้เท่าทันมิจฉาชีพ
– DHL Express ไม่มีนโยบายติดต่อลูกค้าผ่านระบบอัตโนมัติ ลูกค้าสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่เบอร์ 02-345-5000 หรือตรวจสอบสถานะการจัดส่งของพัสดุระหว่างประเทศ โดยนำหมายเลข waybill ตรวจสอบที่เวปไซต์ของ DHL Express โดยตรง

– DHL Express ไม่มีนโยบายให้ลูกค้าแอดไลน์ส่วนตัว หรือให้โอนเงินเข้าบัญชีที่เป็นชื่อบุคคลเพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าภาษี หรือค่าบริการเป็นอันขาด

– การส่งของรางวัลจากต่างประเทศ โดยที่ไม่มีประวัติร่วมกิจกรรม เป็นกลอุบายที่มิจฉาชีพมักใช้บ่อย รวมถึง เงินสด และ ทองคำ เป็นหนึ่งในสิ่งของต้องห้ามที่ไม่สามารถขนส่งภายในเน็ตเวิร์คการขนส่งระหว่างประเทศของ DHL Express

– การกล่าวหาผู้ต้องหาโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านทางโทรศัพท์หรือไลน์ ไม่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย มิจฉาชีพมักใช้กลโกงนี้หลอกลวงผู้เสียหาย ข่มขู่ และสร้างสภาพแวดล้อมสมมุติทาง

– โทรศัพท์ให้เหมือนจริง เช่น เสียงเจ้าหน้าที่ เสียงวิทยุสื่อสาร หรือสร้างบัญชีไลน์ปลอมแปลงชื่อ รูปภาพ

ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าปัจจุบันมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) ระบาดหนัก โดยอ้างว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือหน่วยงานราชการต่างๆ โทรศัพท์หาผู้เสียหายแจ้งว่าบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ให้โอนเงินในบัญชีธนาคารทั้งหมดมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ โดยข่มขู่ว่าหากไม่โอนเงินมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จะถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินให้เป็นจำนวนมาก นั้น

ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ธนาคาร และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องให้เจ้าของบัญชีธนาคารโอนเงินมาให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบ เพราะการตรวจสอบบัญชีธนาคารจะดูจากรายการเดินบัญชีและเส้นทางการเงินเท่านั้น หรือหากมีความจำเป็นเจ้าหน้าที่ก็อาจอาศัยอำนาจในการอายัดเงินในบัญชีธนาคารดังกล่าว

จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อ หากมีผู้ใดอ้างว่าต้องให้ท่านโอนเงินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เนื่องจากไม่เป็นความจริง และหากพี่น้องประชาชนพบว่า มีบุคคลอ้างว่าเป็นธนาคาร หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ขอให้ท่านโอนเงินไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ กรุณาแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"หมอวรงค์" สวนปังพวกป้อง "ทักษิณ" อ้างส่งตัวรักษาชั้น 14 ได้ ยันถ้าไม่ป่วยวิกฤต ต้องนอนรพ.ราชทัณฑ์เท่านั้น
"ทนายวันชัย" คิดได้ สังคมชิงชัยจับมติแพทยสภา ชี้อาการ "ทักษิณ" โยงเอาผิดราชทัณฑ์ ลั่นเป็นอำนาจ ส่งนักโทษไม่ต้องป่วยวิกฤตก็ได้
"ชายแดนไทยเมียนมา" ด้านตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ยังระอุ กกล. KNLA เข้าโจมตี ทั้งกลางวัน-กลางคืน เสียงระเบิดดังถึงตัวอำเภอท่าสองยาง
"ธรรมนัส" นั่งนายกสมาคมกีฬาทางน้ำฯคนใหม่ สมาชิกลงคะแนนเสียงหนุนท่วมท้น
จนท.ยุติการค้นหาผู้สูญหาย "ตึก สตง.ถล่ม" หลังเปิดพื้นที่ปล่องลิฟท์ที่ชั้นใต้ดินได้ครบทั้ง 6 จุด เตรียมคืนพื้นที่ 15 พ.ค.นี้
"พิพัฒน์" นำทีมเยือนเกาหลีใต้ ร่วมเวทีประชุมรมต.ด้านการทรัพยากรมนุษย์ APEC หารือเอกชนต่อยอดโอกาสแรงงานไทยในตปท.
"กรมบังคับคดี" เชิญร่วมกิจกรรมงาน "MONEY EXPO 2025" สะท้อนมุ่งมั่นบังคับคดีเชิงรุก สร้างสุขแก่ประชา นำพาความยุติธรรม ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
วิเคราะห์สาเหตุการระบาดของ "ปลาหมอคางดำ” ใครทำหลุดกันแน่ ?
"ดีอี" เตือนข่าวปลอม “22 จว.ปลอดภัยที่สุดจากแผ่นดินไหว” ขอปชช.อย่าหลงเชื่อ
ระทึก เกิดเหตุเพลิงไหม้ "สำนักงาน" ภายในโรงสีข้าวพิษณุโลก เคราะห์ดีคุมเพลิงได้ทัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น