อยุธยา เตรียมจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” ประจำปี 2564 เฉลิมฉลองครบ 3 ทศวรรษ แห่งการเป็นเมืองมรดกโลก

อยุธยา เตรียมจัดงาน "ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก" ประจำปี 2564 เฉลิมฉลองครบ 3 ทศวรรษ แห่งการเป็นเมืองมรดกโลก

วันที่ 8 ธันวาคม 2564  นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการแถลงข่าวการจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” ประจำปี 2554 โดยมี นายยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา Mr.Fabian Mosquera Asian Country Managing Director และนายมนัส ทรัพย์มีชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าว ณ บริเวณวัดพระราม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เริ่มจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” ขึ้นตั้งแต่ปี 2534 เพื่อเฉลิมฉลองที่ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534 จนถึงปีนี้ เป็นปีที่ 30 สำหรับความพิเศษของงานปีนี้ได้เน้นการเฉลิมฉลองครบ 3 ทศวรรษ แห่งการเป็นเมืองมรดกโลก โดยกำหนดจัดงานดังกล่าวขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 26 ธันวาคม 2564

“ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” ประกาศก้องให้โลกรู้ว่า “อยุธยามีดี” สุดยอดงานประจำปีอันยิ่งใหญ่ ที่สร้างความประทับใจทุกปี งาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” ประจำปี 2554 จัดอย่างยิ่งใหญ่สมกับการรอคอย เพื่อเฉลิมฉลอง 3 ทศวรรษ ที่ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อย่าพลาดชมขบวนแห่สุดอลังการจำนวน 8 ขบวน 8 ยุคสมัย จะได้พบกับลิเกร้อยล้าน “ศรราม น้ำเพชร” พร้อมเหล่าศิลปินชื่อดังมากมาย ที่จะมามอบความสนุกจนสุขล้น ได้เพลิดเพลินกับมหกรรมการออกร้านอย่างมากมาย อาทิ ถนนกินเส้น-ถนนกินกุ้ง พายเรือ ลานวัฒนธรรม สวนดอกไม้ การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรวิถีไทย ตลาดย้อนยุค ชมการแสดงแสง-เสียง รับชมนิทรรศการพระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 สินค้าถนนคนเดิน OTOP ร่วมสักการะศาลหลัก เมืองโรงพักย้อนยุค รถรางให้บริการนักท่องเที่ยวภายในงาน จุดถ่ายภาพ รวมทั้งการจัดแสดงและให้บริการชุดไทยในทุกวันตลอดการจัดงาน และกิจกรรมใหม่ที่พลาดไม่ได้กับ “นิทรรศการแห่งแสง” ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีแรก พร้อมจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอเชิญชวนแต่งกายผ้าไทยร่วมประกาศก้องความเป็นเมืองมรดกโลก ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19)

นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “การจัดงานเป็นการร่วมมือร่วมใจกันของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนนะครับ สำหรับมาตรการป้องกันโควิด-19 ก็ขอให้ประชาชนที่มาเที่ยวงานได้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย จำนวน 2 เข็มแล้ว ส่วนผู้จัดงานภาครัฐภาค เอกชน เจ้าหน้าที่ และท่านทั้งหลายที่อยู่ในงานต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็มแล้วนะครับ การเว้นระยะห่างก็จำเป็นนะครับ การสวมใส่แมส หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อยๆเราก็รณรงค์กันอยู่ครับ รูปแบบการจัดงานก็จะคล้ายๆกับปีที่ผ่านมานะครับ ก็พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ที่เคยมา ก็จะชินว่าอะไรอยู่ตรงไหนนะครับ มีถนนกินเส้น-กินกุ้ง เวทีกาชาดอยู่ตรงกลางเหมือนเดิมนะครับ ตลาดย้อนยุคก็จะอยู่ที่เดิม  แต่ปีนี้ตลาดย้อนยุคจะพิเศษ ตลาดย้อนยุคจะมีการแสดงนิทรรศการแห่งแสง ส่วนจุดคัดกรองนะครับจะมีทางเจ้าหน้าที่ของสาธารณสุขจังหวัดทุกจุดจุดที่เข้าสู่งาน จึงขอให้พี่น้องที่มาร่วมงานแสดงเอกสารการฉีดวัคซีนแล้วหรือจะเป็น Application ก็ได้ พร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชนนะครับ เพราะฉะนั้นต้องขอเรียนพี่น้องประชาชนนะครับ ต้องพกบัตรประจำตัวประชาชนมาด้วยนะครับ พร้อมกับเอกสารแสดงการฉีดวัคซีนแล้วนะครับ” นายสมศักดิ์กล่าว

แม้ว่า ศบค. จะผ่อนปรนมาตรการโดยกำหนดพื้นที่สถานการณ์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเฉพาะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เป็นพื้นที่สีฟ้านำร่องท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมาแล้วก็ตามคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและผู้ร่วมงานจึงได้กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด-19 ให้ผู้เข้าร่วมงานต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโด๊ส (2 เข็ม) และพกบัตรประชาชน เพื่อใช้ตรวจสอบประวัติการฉีดวัคซีนโควิด ตรวจคัดกรองก่อนเข้างานตามมาตรการ COVID Free Setting เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย พร้อมขอเชิญชวน “ท่องเที่ยวอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย วิถีใหม่ New Normal”

 

เกียรติยศ  ศรีสกุล ผอ.ข่าว TOPNEWS ภาคกลาง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อ.เวียงเชียงรุ้ง เตรียมดัน “วัดเวียงเชียงรุ้ง” เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ สู่แลนด์มาร์คใหม่ของ จ.เชียงราย
“บิ๊กเล็ก” ถกสภากลาโหม เน้นย้ำกองทัพนำคณะ AOT ลงพื้นที่เป็นพยานฝ่ายไทย ผลักดัน 200 ครอบครัวกัมพูชา หลังปักหมุดหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว
โปรดเกล้าฯ เรียกคืนเครื่องราชฯ-เหรียญรัตนาภรณ์ "น.ส.จุฑาทิพย์ วิลาด"
ตำรวจรวบ 2 ผัวเมีย ลอบขนไอซ์ 500 กก. ใช้รถบรรทุกฟางอำพราง เตรียมส่งอยุธยา ค่าจ้าง 1 ล้านบาท
จังหวัดบึงกาฬนำบริการรัฐสู่ประชาชนอำเภอเซกา จัดโครงการ “ปกป้องและเชิดชูสถาบันฯ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” ปี 2569
อบจ.พิษณุโลก ส่งมอบบ้านตามโครงการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​