นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือศบค.ในวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายนนี้ว่า สถานบันเทิงจะสามารถเปิดได้ก่อนปีใหม่หรือไม่นั้น จะพยายามผ่อนคลายให้ได้มากที่สุด แต่สถานการณ์ตอนนี้แม้กระทั่งยุโรปยังต้องล็อคดาวน์กันอีกครั้ง และไม่รู้ว่าตนจะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันศุกร์ที่ 26 พ.ย.นี้ ได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เราต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ตอนนี้เริ่มนิ่งแล้วแต่เราก็อยากให้มันนิ่งที่สุดก่อน
“สิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการภายใน 2 สัปดาห์นี้ คือให้แพทย์สาธารณสุขและสำนักงานควบคุมโรคทั่วประเทศ เร่งปิดเกม พวกที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ซึ่งพวกนี้คือพวกที่รอวัคซีน ไฟเซอร์ โมเดอร์นา อะไรต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลเองก็มีไฟเซอร์แล้ว พวกที่จองไว้ก็สามารถทิ้งไปก่อนได้ และมารับวัคซีนของรัฐบาลก่อน เพราะไม่ได้หมายความว่าจองโมเดอร์นา แล้วจะมารับวัคซีนของรัฐบาลไม่ได้ ค่อยไปหาวิธีที่จะไปขอคืนเงินกับโรงพยาบาลเอกชน อาจจะเป็นส่วนลดจากโรงพยาบาลที่ทำการจอง ซึ่งตรงนั้นไม่เป็นอะไรหรอก ขอให้มารับวัคซีนของรัฐก่อน อย่าไปรอ ขอให้บอก เราจะจัดไฟเซอร์ให้ แต่ไม่ได้หมายความว่ากระทรวงสาธารณสุขจะไปเจรจากับโรงพยาบาลเอกชนที่ประชาชนสั่งจองวัคซีนแล้วไม่ได้ไปชดเชย ซึ่งใครที่จองไปแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะได้ฉีดเมื่อไหร่จากโรงพยาบาลเอกชนก็ให้มาฉีดของรัฐ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลก็เคยบอกแล้วว่าไม่ต้องจอง แต่ก็ไม่เชื่อกัน เรื่องการเจรจาขอเงินคืนไม่ใช่หน้าที่ของรัฐ” นายอนุทิน กล่าว
ต่อข้อถามว่าสิ้นเดือนนี้จะสามารถฉีดวัคซีนได้ครบ 100 ล้านโดสตามเป้าหมายหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ทะลุ 90 ล้านโดสแล้ว จะเห็นได้ว่าความสามารถในการฉีดวันละ 1 ล้านเข็มสบาย ๆ ตอนนี้ แต่ที่จำนวนการฉีดลดน้อยลงในตอนนี้เพราะได้ฉีดกันไปเยอะแล้วพวกเข็มที่ 1 เหลือจำนวนไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นพวกห่างไกลข้อมูล พยายามให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด สำรวจข้อมูลเชิงรุกโดยจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกไปฉีดวัคซีนให้ ซึ่งวันนี้เรามองเรื่องการฉีดเข็ม 3 แล้ว ถ้าฉีดเข็ม 3 ได้มากโอกาสการผ่อนคลายมาตรการหลาย ๆ อย่างก็จะได้มากตาม การผ่อนคลายผู้ประกอบการต้องโชว์ใบฉีดวัคซีนของพนักงานทุกคนว่าได้รับวัคซีนครบถ้วน ความปลอดภัยก็จะเกิด