บุรีรัมย์ใช้กฏเหล็ก ออกคำสั่ง ใครไม่ฉีดวัคซีนสู้โควิด โดนโทษทั้งจำทั้งปรับ

คณะกรรมการโรคติดต่อ บุรีรัมย์ ออกคำสั่งเรื่อง การป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ล่าสุด ออกกฏเหล็ก กลุ่มเสี่ยงไม่ฉีดวัคซีนโควิด-19 มีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ

คณะกรรมการโรคติดต่อ บุรีรัมย์ ออกคำสั่งเรื่อง การป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ล่าสุด ออกกฏเหล็ก กลุ่มเสี่ยงไม่ฉีดวัคซีนโควิด-19 มีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ
สำหรับใจความสำคัญของคำสั่งจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ดังนี้

สำหรับเนื้อหาในคำสั่งดังนี้

1.เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ให้ประชาชนทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่หรือบุคคลที่มาปฏิบัติงานในจังหวัดบุรีรัมย์ และหรือพักอาศัยในจังหวัดบุรีรัมย์ ทำการประเมินตนเองตามแบบประเมินความเสียงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 จังหวัดบุรีรัมย์ ที่กำหนดตามเอกสารแนบท้ายาคำสั่งนี้ ต่ออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)ในชุมชน/หมู่บ้าน ที่ท่านพักอาศัยอยู่
โดยกระบวนการ อสม.เคาะประตูบ้าน หรือผ่านระบบออนไลน์ ในฐานข้อมูลกลางจังหวัดบุรีรัมย์ สำหรับบริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือผ่านศูนย์ประสานงานรับบริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ของโรงพยาบาล/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน เกี่ยวกับความเสียงการติดเชื้อฯ ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.2564 ถึงวันที่ 31 พ.ค. 2564 เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารสุขในพื้นที่จัดกลุ่มการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อฯ

2.ในกรณีที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เจ้าหน้าที่สาธารสุขตรวจพบหรืออาจตรวจพบว่าบุคคลในหรือบุคคลดังกล่าวในข้อ 1 เป็นผู้ที่มีความเสี่ยง อาจมีความเสี่ยงที่จะติดโรคติดเชื้อฯ ให้เจ้าพนักงานนั้นมีอำนาจสั่งให้ผู้ที่มีความเสี่ยง อาจมีความเสี่ยงที่จะติดโรคนั้น ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อฯ ตามวัน เวลา และสถานที่ซึ่งเจ้าพนักงานนั้นกำหนด เพื่อป้องกันมิให้โรคคิดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่หรืออาจแพร่ออกไป

3.หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามข้อ 1 มีโทษตามนัยมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคิกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท และผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามข้อ 2 มีโทษตามนัยมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และอาจมีความผิดตามมาตร 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มรภ.กาญจนบุรี ร่วมกิจกรรม "ปลูกป่า ปล่อยปลา รักษ์สิ่งแวดล้อม" ขับเคลื่อนงานด้าน CSR/USR
เริ่มแล้ว กองทัพไทย ยกระดับความมั่นคง ปักเสา CCTV ต้นแรก รั้วอิเล็กทรอนิกส์ ชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งอรัญประเทศ
เครือจุฬารัตน์เดินหน้าสร้างอนาคตสุขภาพยั่งยืน มอบเครื่องมือแพทย์ 65 ล้านบาท
นอภ.ชะอำ มอบบัตรประชาชนให้ ยายวัย 73 และลูกชายวัย 43ปี ที่ไม่เคยมีบัตรประชาชนนาน 73ปี
ผบ.ตร.มอบหมายประชุมพิจารณาแต่งตั้งนักวิทยาศาสตร์ตำรวจ
ทั่วไทยฝนฟ้าคะนอง เปิด 44 รายชื่อ รับมือฝนถล่มวันนี้ เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน คนกรุงอ่วม เจอฝน 70 %

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​