หนุ่มสะเดาโอนไว พลาดท่าหลงกลสาวติ๊กต๊อก สูญเงินถึง 2 ล้านบาท!!!

หนุ่มสะเดาโอนไว พลาดท่าหลงกลสาวติ๊กต๊อก สูญเงินถึง 2 ล้าน!!!

วานนี้ ( 6 พ.ค.64 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพุทธคุณ มั่นชูพงศ์ หรือจิน อายุ 48 ปี ชาว อ.สะเดา จ.สงขลา นำหลักฐานเอกสารและคลิปวิดีโอเข้าพบ ร้อยตรีชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ หรือทนายชัช เพื่อให้ช่วยเหลือ หลังถูก น.ส.ศิริรัตน์ ศรีคำ อายุ 38 ปี หรือน้องกิ๊ป สาวในแอพพลิเคชั่นติ๊กต๊อก ซึ่งตกลงคบหากันก่อนยืมเงินไป 2 ล้านบาทแล้วไม่ยอมคืน โดย นายพุทธคุณ เล่าว่า รู้จักกับ น.ส.ศิริรัตน์ ผ่านแอพพลิเคชั่นติ๊กต๊อก หลังพูดคุยกันพบว่า ส.น.ศิริรัตน์ เป็นคนน่ารักแถมยังไม่มีแฟน ประกอบกับตนยังไม่มีครอบครัวถูกใจจึง แล้วหันมาคุยผ่านทางไลน์เป็นการส่วนตัวจนถึงขั้นวางแผนแต่งงานร่วมกัน โดย น.ส.ศิริรัตน์ ทำให้ตนไว้เนื้อเชื่อใจโดยบอกว่าจะพาตนไปรู้จักกับพ่อและแม่ และทุกครั้งที่พูดคุยกัน น.ส.ศิริรัตน์ มักเล่ามีปัญหาเดือนร้อนเรื่องเงิน โดยเริ่มจากการอ้างว่าจะนำเงินไปจ่ายค่าเช่าร้านที่เปิดอยู่ภายในตลาด จ.ระยอง จำนวนเงิน 5 หมื่นบาท จากนั้นเริ่มเดือดร้อนเป็นหลักแสน โดยอ้างกับตนว่าจะนำเงินไปจ่ายค่าแชร์ และสัญญาว่าจะคืนเงินทุกบาททุกสตางค์

 

 

ด้วยความรักที่มีต่อ น.ส.ศิริรัตน์ ตนจึงนำเงินที่เก็บออมไว้จากการทำงาน แถมยังรูดบัตรเครดิต หยิบยืมเพื่อนฝูง นำรถไปวางไฟแนนซ์ และนำบ้านไปจำนองจนเพื่อนำเงินไปให้ น.ส.ศิริรัตน์ จนตนเป็นหนี้ถึง 2 ล้านบาท กระทั่งเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ศิริรัตน์ เดินทางมา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงได้พบกันเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะมีความสัมพันธ์กัน หลังจากนั้นจนถึงปัจจุบันไม่เคยได้พบหน้า น.ส.ศิริรัตน์ อีกเลย ด้วยความคิดถึงจึงอยากไปหาแต่ก็โดนปฎิเสธทุกครั้ง กระทั่งล่าสุดมาทราบข่าวจากเพื่อนของ น.ส.ศิริรัตน์ ว่า น.ส.ศิริรัตน์ มีสามีเป็นตัวเป็นตน โดยอยู่กินกันมานับ 10 ปีแล้ว จากนั้นตนได้เบอร์โทรศัทพ์ของสามี น.ส.ศิริรัตน์ จึงตัดสินใจโทรหาแล้วเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟังเพื่อต้องการเคลียร์ปัญหา โดยตนยืนยันว่าหาก น.ส.ศิริรัตน์ บอกว่ามีสามีอยู่แล้ว ตนก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวอย่างแน่นอน ส่วนที่ต้องไปปรึกษาทนายเพราะอยากได้เงินคืน โดยหาก น.ส.ศิริรัตน์ ยอมคืนเงินตนก็จะไม่เอาความ แต่หากตกลงกันไม่ได้ก็คงต้องแจ้งความดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา

 

 

ด้าน ทนายชัช เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าเข้าข่ายเรื่องกู้ยืมเงิน เพราะมีหลักฐานการแชทพูดคุยกันว่าจะชดใช้หนี้ โดยหลังจากนี้จะให้ทีมกฎหมายรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเพื่อจะสามารถเอาผิด น.ส.ศิริรัตน์ ในข้อหาฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ได้หรือไม่ แต่คดีที่เกิดขึ้นสามารถใกล่เกลี่ยได้หากทั้งสองได้พูดคุยกัน และในฐานะทนาย อยากฝากเตือนประชาชนทั่วประเทศให้ใช้สติก่อนคบหาดูใจกับใคร โดยให้พิจารณาว่าคนจะคบกับเราจริงใจหรือไม่ หรือต้องการหาผลประโยชน์จากการคบหาดูใจกัน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ศิริโชค" โพสต์ระทึก รถยนต์ไฟฟ้า EV จอดหน้าบ้าน ไฟลุกท่วมเสียหายทั้งคัน เตือนระวังถึงไม่ได้ชาร์จยังเกิดได้
"อุตุฯ" เตือน "เหนือ-อีสาน-ตะวันออก" รับมือฝนตกหนัก กทม.โดนฝนร้อยละ 70 ของพื้นที่
จนท.สนธิกำลัง จับกุมผู้กระทำผิด 3 ราย ทลายแก๊งขโมยรถจักรยานยนต์ ส่งขายต่างประเทศ 
"แคร์บิว" ร่วมเสริมภูมิคุ้มกันทางความคิด เยาวชนภาคเหนือ สู้ภัยพนันออนไลน์
"GLO" จัด Kid Dee Roadshow ภาคเหนือ เสริมพลังคนรุ่นใหม่รู้เท่าทันภัยพนันออนไลน์
“ภูมิธรรม” ชี้ชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด ยันยึดมาตรการตามเดิม ไม่มีผ่อนปรนเข้า-ออก ข้ามแดน
"บิ๊กเล็ก" แจงเข้าใจคลาดเคลื่อน ยันคุยทางออกขัดแย้งกัมพูชา ไม่ได้หมายถึง "เตีย เซียฮา" ขอเชื่อมั่น ไว้ใจนำสงบสุขกลับคืน
"อ.ไชยันต์" ซัด "ไอติม พริษฐ์" อ้างเหตุปชน.ไม่ร่วมยื่นซักฟอก "นายกอิ๊งค์" ทำปชช.เสียโอกาส สวนเจ็บ รัฐสภาอังกฤษ เขียนชัด จริยธรรมนักการเมือง อย่าทำไม่รู้เห็น 
ปั๊มน้ำมันระเบิดดังสนั่นทั่วกรุงโรมของอิตาลี
"โฆษกทบ." แจงเหตุ "ทหารพรานไทย" ปะทะคารม "ทหารกัมพูชา" จุดชมวิวภูผี ไม่ถึงขั้นรุนแรง ย้ำต่างฝ่ายต่างยึดข้อตกลง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น