นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ฯ หวั่นบาทแข็งฉุดส่งออกครึ่งปีหลัง 69 เตือนอาจแตะ 29 บาทต่อดอลลาร์ แนะผู้ประกอบการคุมต้นทุน เลือกตั้งอย่าฟังแค่นโยบาย

วันที่ (29 ธ.ค.) ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับค่าเงินบาทที่แข็งมากจนเกินไป ซึ่งในวันนี้อยู่ที่ระดับ 31บาทต่อเหรียญสหรัฐและยังมีแนวโน้มว่าอาจแข็งค่าได้มากกว่าปัจจุบันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดปกติอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาค่าเงินบาทของไทยไม่เคยแข็งนานเช่นนี้

 

 

โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ที่ประเทศอยู่ในภาวะสงคราม ค่าเงินจะต้องอ่อนลงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ค่าเงินบาทไทยไม่ได้รับผลกระทบซ้ำยังมีแนวโน้มว่าอาจแข็งได้ถึง 29 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

” เราทำธุรกิจด้านการส่งออกมานานจนสังเกตุเห็นได้ชัดถึงความผิดปกติในเรื่องของค่าเงินที่มีปัจจัยมาจากเงินนอกประเทศที่ไหลเข้ามาเป็นจำนวนมากและต่อเนื่อง จนผู้ที่อยู่ในภาคการส่งออกถึงกับตกใจ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะอาจจะต้องเจอกับภาวะขาดทุนได้ หากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี เพราะขณะนี้แต่ละประเทศก็เจอปัญหาทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เช่นกันและการที่จะขอความเห็นใจจึงทำได้ยาก”

ดร.ฉวีวรรณ ยังเผยอีกว่าในปี 2569 ผู้ประกอบการจะต้องวางแผนการดำเนินธุรกิจและการผลิตให้รอบครอบ รวมทั้งต้องปรับตัวให้ได้ โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่ในช่วงครึ่งปีหลังจะต้องดูตลาดที่มั่นคงควบคุมต้นทุนให้ได้มากที่สุด เนื่องจากค่าเงินบาทไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนลงได้ง่ายๆ จึงอาจเสี่ยงต่อการขาดทุน

 

 

” เท่าที่ทราบข่าวจากแบงก์ชาติก็พอจะรู้ว่ารัฐบาลก็กำลังแก้ปัญหานี้อยู่ แต่มันยากตรงที่เงินซึ่งไหลเข้ามามีจำนวนมากและต่อเนื่อง ในฐานะผู้ส่งออกย่อมมีความวิตกกังวลเพราะความต้องการเนื้อไก่ของไทยในต่างประเทศยังมีสูงอยู่ แต่ค่าเงินที่แข็งจนเกินไปทำให้เราแทบปรับตัวไม่ทัน “

อย่างไรก็ตามในส่วนของ ฉวีวรรณกรุ๊ป ในฐานะผู้ผลิตเนื้อไก่เพื่อการส่งออกได้พยายามลดต้นทุนทุกอย่างเพื่อให้อยู่รอดได้ และแม้การส่งออกเนื้อไก่ในส่วนของ” ฉวีวรรณ กรุ๊ป” ปีนี้จะยังทะลุหลักหมื่นล้านบาท แต่กำไรที่ได้ก็อาจลดลงและไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

ส่วนการส่งออกเนื้อไก่ไทยในภาพรวมช่วงครึ่งปีแรก 2569 จะยังคงไปได้เพราะเป็นการซื้อขายกันล่วงหน้าตามสัญญา แต่ในช่วงครึ่งปีหลังผู้ประกอบการอาจต้องเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจาก จีน ที่เคยเป็นตลาดส่งออกใหญ่ของไทยก็เริ่มหันมาผลิตเนื้อไก่ขายแล้วเช่นกัน

ชี้เลือกตั้งใหญ่ 69 คนไทยต้องใช้วิจารณญานเลือกคนทำงานเป็นบริหารประเทศ

ดร.ฉวีวรรณ ให้แง่คิดเรื่องการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นว่าทุกพรรคการเมืองย่อมขายนโยบายการช่วยเหลือประชาชนที่ล้วนเป็นนโยบายที่ดีที่สุด แต่ประชาชนคือผู้ที่จะต้องคิดและวิเคราะห์โดยดูจากผลการทำงานของนักการเมืองในช่วงที่ผ่านมาเป็นหลัก เพราะวันนี้ประเทศไทยต้องการคนที่ทำงานเป็น เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น และเชื่อว่าในครั้งนี้จะมีการซื้อเสียงกันอย่างรุนแรง

” ประชาชนคือผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการเลือกตั้งโดยตรง ดังนั้นจะต้องใช้วิจารณาณให้ดีว่าพรรคใดที่จะสามารถช่วยเราได้จริง ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการไม่ควรตั้งความหวังกับพรรคการเมืองใดๆ แต่ควรหันมาหาช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุดจะดีกว่า เพราะตั้งแต่ทำธุรกิจมาไม่เคยเห็นนักการเมืองคนไหนที่เข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการได้จริง” ดร.ฉวีวรรณกล่าว

ภาพ/ข่าว จารุ สุขศรี ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.ชลบุรี

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ บุกอาศรมฤาษีเณรกราบปู่ฤาษีพรหมเมศส่องอ่างน้ำมนต์ลุ้นโชครับปีใหม่ 2569
ประชาธิปัตย์ลุยบางสะพาน ชวน หลีกภัย ให้กำลังใจผู้สมัคร
กัมพูชาจี้ไทยประชุมด่วน JBC รื้อฟื้นงานปักปักเขตแดน
จีนเผยผลสรุปประชุม 3 ฝ่ายกับไทยและกัมพูชาที่ยูนนาน
ยะลารณรงค์เชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น
"ออมสิน" ประกาศยกหนี้ปิดบัญชีให้ "ทหาร-ตชด." พลีชีพ พร้อมพักหนี้ผู้อพยพ 3 เดือน ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​