จ.ตราด/หลังนาวาเอกธรรมนูญ วรรณา ผบ.หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราดยืนยันว่าพื้นที่ อ.คลองใหญ่ และ อ.บ่อไร่ ปลอดภัยแล้ว เนื่องจากไม่มีการยิงโต้ตอบมานานกว่า 7 วัน ประชาชนสามารถกลับเข้าที่พักอาศัยได้ตามปกติ ส่วนกรณีเสียงปืนและควันไฟที่บ้านตามหลังเมื่อวันก่อน ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเพียงการเผานาของชาวบ้าน ไม่ใช่การซุ่มโจมตีตามที่ตื่นตระหนกกัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางวิยะดา อมรเพชรกุล ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท บุญศิริเดินเรือ จำกัด เปิดเผยว่า ยอมรับว่าเมื่อเกิดการสู้รบกันในพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาด้านจ.ตราดเป็นครั้งที่ 2 และรุนแรงและยาวนานกว่าครั้งแรก ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สถานฑูตแต่ละประเทศได้ออกคำแจ้งเตือนว่า แต่ภาพรวมแล้วนักท่องเที่ยวกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังไม่ตัดสินใจเดินทางมามากกว่า และมีการตรวจสอบข้อมูลมายังหน่วยงานทางราชการขอ
ไทย เมื่อพบว่า ไม่มีปัญหาในเรื่องความไม่ปชอดภัย ส่วนใหญ่จะตัดสินใจเดินทางมา มีส่วนน้อยทีทยกเลิก และเลื่อนการเดินทางมาเท่านั้น ส่วนนักท่องเที่ยวไทยนั้นหายไป 25% ซึ่งไม่มากตามที่ประเมินไว้
“ตั้งแต่เกิดการสู้รบมา ทางบริษัทฯยังไม่เคยทีทจะหยุดเดินทางไปเกาะกูดและเกาะหมาก เนื่องจากพื้นที่สู้รบอยู่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยว จะมีช่วงหลังที่มีการยิงปะทะกันที่เกาะกง ในจ.เกาะกงที่ใกล้กับเกาะกูด แต่ก็เป็นแค่วันเดียวแล้วก็เงียบไป ทางบริษัทยืนยันว่า ไม่มีเหตุการณ์ที่อันตราย ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาอยู่ใน 3 เกาะหลักแม้จะได้ยิงเสียงปืน แต่เขาไม่ได้กลัว และมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาใดๆขึ้น อีกทั้งหน่วยงานทหารในพื้นที่ยืนยันเช่นนี้ก็เชื่อว่าไม่มีจริง แชะที่สำคัญที่สุดผู้ประกอบการเรือโดยสารทุกบริษัท ทั้งเดินทางไปเกาะกูด เกาะหมาก และเกาะช้างก็ไม่ได้หยุดเดินเรือในแต่ละวัน ที่มีรวมกันเกิน 14 เที่ยว/วัน อีกทั้งหลังจากยกเลิกเคอร์ฟิวนักท่องเที่ยวก็ยังจองห้องพักมาเพิ่มขึ้น แม้จะไม่เท่ากับที่คืนไป แต่ปลายปีน่าจะครบทั้งหมด“
ด้านนางสาวพิชยา ธชัยอดิทรัพย์ นายกสมาคมโรงแรมและรีสอร์ทจ.ตราด และเจ้าของโรงแรมเกาะกูดพาราไดซ์ จ.ตราด เปิดเผยว่า ก่อนที่ประกาศเคอร์ฟิวนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติจองห้องพักมาเต็มทั้งหมดสำหรับ 3 เกาะหลัก ซึ่งผู้ประกอบการเตรียมจัดกิจกรรมในช่วงปีใหม่ไว้เต็มที แต่เมื่อเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้นและมีกระสุนตกลงมาที่บนถนนสายสุขุมวิท ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ อีกทั้งสถานฑูตของแต่ละประเทศในไทยได้ออกแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวของเขาว่า หากจะเดินทาลมาท่องเที่ยวในจังหวัดตราดต้องระวัดระวัง เนื่องจากช่วงนี้จ.ตราดมีการปะทะกับฝ่ายกัมพูชาอาจความไม่ปลอดภัยได้ จุดนี้นี่เองที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่เดินทางมา หรืออาจจะเลื่อนไปเลยและกลับมาภายหลัง ซึ่งยอดจองหายไปถึง 30-40 % แต่หลังจากมีการยิกเลิกเคอร์ฟิวแล้วสถานการณ์ก็กลับมาดีอีกครั้ง จากห้องพักที่เหลืออยู่และนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาอีกครั้งหนี่ง โดยเฉพาะที่เกาะกูด ส่วนเกาะช้างมและเกาะหมากได้รับผลกระทบไม่มากนัก ทำให้ความเชื่อมั่นกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
”ทางผู้ประกอบเตรียมการในเรื่องการจัดกิจกรรมส่งท้ายไว้พร้อมแล้ว พร้อมกิจกรรมเคาน์ดาวน์ที่มีการยิงพลุ และดนตรี รวมถึงกิจกรรมอื่นๆที่แต่ละโรงแรมเตรียมไว้ ซึ่งเมื่อเจอสถานการณ์สู้รบที่รุนแรงขึ้นจึงต้องปรับเปลี่ยนไปบ้าง แต่ต้องหารือกับทางอำเภออีกครั้ง ซึ่งเมื่อสถานการณ์เป็นนี้น่สจะทำให้การท่องเที่ยวของจังหวัดตราดดีขึ้นมและนักท่องเที่ยวจะกลับคืนมาบ้างแม้ไม่ทั้งหมด“นางสาวพิชยากล่าว
อ.แหลมงอบ จ.ตราด/ ว่าที่ร้อยตรีกรกฎ โอกาส ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด เปิดเผยว่า หลังจากสถานการณ์สู้รบในพื้นที่ชายแดนตราดคลี่คลายและทหารนาวิกโยธินตราดสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ทำให้ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการจังหวัดตราดกลับมาอีกครั้ง จากที่มีการยิกเลิกการเดินทางมาของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ แต่เมื่อสถานการณ์กลับมาดี นักท่องเที่ยวต่างชาติก็มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะ 3 เกาะหลักของจังหวัดตราดมคือ เกาะช้างมเกาะหมาก และเกาะกูด โดยเฉพาะในอำเภอคลองใหญ่ และเกาะต่างๆ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังมีความไม่แน่นอนในบางจุด ขณะผู้ประกอบการในอำเภอคลองใหญ่ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ทั้งสถานีบริการน้ำมัน โรงแรม รีสอร์ท และร้านอาหาร ซึ่งเป็นสัญญาณว่าพื้นที่ดังกล่าวยังมีความปลอดภัย ยกเว้นบางจุดที่เจ้าหน้าที่ทหารสั่งห้ามเข้านับเป็นเรื่องที่ดี อีกทั้ลในอำเภอคลองใหญ่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งชายหาดสวยงาม และชุมชนประมงไม้รูดที่ถือว่า เป็นสัญลักษณ์ทางการท่องเที่ยวในอำเภอคลองใหญ่
“จังหวัดตราดในช่วงนี้ยืนยันว่าเป็นจังหวัดที่เที่ยวได้ตามปกติยกเว้นบริเวณพื้นที่ที่ทางทหารท่านขอไว้ว่าเป็นพื้นที่หวงห้ามหรือสงวนงดเว้นการท่องเที่ยว ก็จะมีแต่บริเวณที่อำเภอคลองใหญ่ และอำเภอบ่อไร่บางส่วนที่อยู่ใกล้ ๆ ชายแดน ตรงนั้นก็ปกติก็ไม่ค่อยมีแหล่งท่องเที่ยวอยู่แล้ว ยกเว้นที่อำเภอคลองใหญ่ ซึ่งด่านชายแดนก็ปิดไปตั้งแต่ประมาณเดือนกรกฎาคมไปแล้วอันนี้ก็สงวนไว้เป็นพื้นที่ที่เราจะไม่แนะนำ แต่ว่าบริเวณหาดมุก บริเวณที่เป็นที่พักอย่างพวกทะเลรีสอร์ต หรือ ทะเลภูรีสอร์ต ตรงนี้ก็ยังสามารถไปพักได้ตามปกติ แถวนั้นก็มีนอกจากแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ก็มีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล มีร้านกาแฟ มีร้านอาหารยังเปิดให้บริการตามปกติ ปั๊มน้ำมันก็ยังเปิดให้บริการตามปกติ นั่นแสดงให้เห็นว่า ยัลสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้“ผู้อำนวยการ ททท.ตราด กล่าว

ว่าที่ร้อยตรีกรกฎ กล่าวอีกว่า ในส่วนความพร้อมของบริการขนส่งนั้นการเดินทางมายังจังหวัดตราดและเกาะต่างๆ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ: ทั้งสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส: ให้บริการวันละ 3 เที่ยวบิน หรือ เรือเฟอร์รี่ไปเกาะช้าง: ให้บริการเวลา 06:30 – 18:30 น.และเรือโดยสารไปเกาะกูดและเกาะหมาก: ให้บริการตามปกติ โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงประมาณ 25% แต่บรรยากาศการท่องเที่ยวยังคงมีความคึกคัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มักเดินทางต่อเนื่องมาจากจังหวัดอื่น เช่น ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง และชุมพรและในช่วงคริสต์มาส ททท.สำนักงานตราด เราก็จะมีของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ นะครับ เพื่อเป็นการขอบคุณ เป็นการตอบแทน แล้วก็สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดตราดด้วย
สำหร้บ ททท.สำนักงานตราดจะมีกิจกรรมแจกผ้าเช็ดหน้ามัดย้อม ผ้าสามป่าจากวิสาหกิจชุมชนบ้านธรรมชาติล่างนะครับ ก็เราก็ใช้เลข 69 นะครับเป็นกิมมิกนะครับ ก็ผู้ประกอบการเรือแต่ละราย ก็จะมีโควตาแจกผ้าเช็ดหน้า ที่เป็นของที่ระลึกอันนี้เป็น OTOP เป็นของดีของจังหวัดตราด ก็ให้รายละ 69 ผืน และในส่วนช่วงปีใหม่ เราก็จะมีการจัดโปรโมชันเป็นคูปองเงินสดในการแลกซื้อเครื่องดื่มและอาหารสำหรับผู้ประกอบการเรือ มีมูลค่าคนละ 50 บาท จำนวน 69 สิทธิ์เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ททท. สำนักงานตราด ก็มั่นใจและเชื่อว่าบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงคริสต์มาสและก็ปีใหม่ รวมถึงหลังปีใหม่เนี่ย ยังคึกคักและก็มาเที่ยวได้ โดยการดูแลอย่างดีของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน แล้วก็หน่วยงานที่ดูแลเรื่องความมั่นคงของจังหวัดตราด และจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียงอย่างจันทบุรี ก็สามารถมาเที่ยวได้ตามปกติ



