“สหพันธ์คนไทยฯ” ร้องล่าตัว 2 พ่อลูกตระกูลฮุน และ “มาลี” มาดำเนินคดี ฐานเป็นอาชญากรสงคราม

"สหพันธ์คนไทยฯ" ร้องล่าตัว 2 พ่อลูกตระกูลฮุน และ "มาลี" มาดำเนินคดี ฐานเป็นอาชญากรสงคราม

วันนี้ (19 ธ.ค 68) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม นายราเชน ตระกูลเวียง ประธานสหพันธ์คนไทยปกป้องสถาบันฯ พร้อมกลุ่มอาชีวะมีนบุรีรวมกว่า 10 คน เข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีกับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา , นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และพลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายของประเทศไทยด้วยการส่งข้อมูลให้อัยการตรวจสอบ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายราเชน ตระกูลเวียง กล่าวว่า ตนได้ร้องขอให้มีการตรวจสอบ บุคคลทั้ง 3 คน ว่าได้มีการกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทยหรือไม่ หากพบความผิดก็ขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุด และร้องขอให้ตำรวจสากลออกหมายแดง เพื่อจับกุมบุคคลทั้ง 3 มาดำเนินคดี ฐานเป็นอาชญากรสงคราม และ การดำเนินคดีกับทั้ง 3 คนนี้ จะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่ทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพ เพราะปัจจุบันมีวีรบุรุษทหารไทย ที่ต้องสูญเสียชีวิตแล้วกว่า 20 คน และยังมีที่สูญเสียอวัยวะอีก พี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และนายฮุน เซน ไม่เคยรักษาสัจจะวาจา ไม่ว่าจะเป็นในการประชุม GBC หรือการประชุมอะไรก็แล้วแต่ ทั้งที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายกมาเลเซีย พยายามเข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจาไกลเกลี่ย แล้เป็นสักขีพยานให้หยุดยิง และให้ร่วมในการเก็บกู้ระเบิดแต่สุดท้ายกัมพูชาก็ยิงใส่ไทยทันที แต่กลับยังไปออกข่าวว่า ถูกไทยรุกราน ซึ่งไม่ยุติธรรม กับประเทศไทย ต่างหากเป็นผู้ถูกรุกราน ดังนั้น ขอให้ทุกภาคส่วนดำเนินการกับกัมพูชาอย่างเต็มที่ ทั้งฝ่ายกองทัพและกระทรวงการต่างประเทศ

 

ทั้งนี้ นายราเชน ยืนยันว่า แม้ตามปกติบุคคลสำคัญของประเทศจะมีเอกสิทธิ์คุ้มกัน แต่อย่างไรก็ตาม นายฮุน เซนและพวก เข้าข่ายเป็นอาชญากรสงคราม และการสู้รบตลอด 10 วันที่ผ่านมา ไม่มีชาติใดประท้วงการกระทำของประเทศไทย หมายความว่า ประชาคมโลกเห็นด้วยกับการกระทำของไทย ดังนั้นไทยต้องฉวยโอกาสนี้จัดการกัมพูชาให้ราบคาบในทุกมิติ มิฉะนั้นไทยเราจะพลาดท่าเสียโอกาส อย่าคิดว่าไทยเป็นพี่ใหญ่ไปรังแกน้องเล็ก เพราะกัมพูชาจะกลายเป็นหอกข้างแคร่

 

 

นอกจากนี้ นายราเชน ยังบอกด้วยว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่พยายามเข้ามาเป็นคนกลางนั้น ไม่อยู่ในสายตาตัวเอง เพราะล่าสุดมีข้อมูลว่า อาวุธเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่จีนขายให้มาเลเซีย กลับไปโผล่ที่กัมพูชา และนายอันวาร์ยังมีความพยายามเข้ามาแทรกแซงความขัดแย้งตั้งแต่ต้น ทำให้ไทยเสียประโยชน์ตั้งแต่การลงนามครั้งแรก ที่มีข้อตกลงหยุดยิง จนไทยต้องเสียปราสาทตาควายไป จึงขอให้นายอันวาร์อยู่เฉยๆดีกว่า

นอกจากนี้ กลุ่มมวลชนที่เข้าแจ้งความวันนี้ ยังเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้านวัยรุ่นกัมพูชา ที่มีพฤติกรรมเหยียดหยามคนไทยในประเทศไทย ซึ่งนายธนเดช ศรีสงคราม หรือ “ม่อน อาชีวะมีนบุรี” ได้แสดงความคิดเห็นถึงเหตุการณ์ล่าสุด ที่กลุ่มวัยรุ่นกัมพูชากว่า 10 คน ขว้างระเบิด และนำอาวุธมีดมาท้าทายวัยรุ่นไทย ไว้ว่า มีหลายเหตุการณ์ที่วัยรุ่นชาวกัมพูชาเหยียดหยามคนไทย ทั้งฉีกธนบัตร เหยียบธงชาติไทย ซึ่งสมควรถูกดำเนินคดี จึงอยากให้ตำรวจดำเนินการ เพราะกลุ่มอาชีวะฯ ไม่อยากดำเนินการเอง อีกทั้งเชื่อว่า ตำรวจไทยเก่ง ไม่นานก็จะจับกุมตัวได้ทั้งหมด หลังจับกุมผู้ก่อเหตุไปแล้ว 3 คน พร้อมยืนยันคนไทยเป็นคนใจดี อดทนอดกลั้น แต่ถ้าเมื่อใดความอดทนถึงขีดสุด ชาวกัมพูชาที่สร้างความวุ่นวายเหล่านี้จะอยู่ในประเทศไทยลำบาก.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กองทัพเรือ" ถอดคำแปลฉบับเต็ม เอกสาร "เขมร" สอนทหารใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 ชัดเจนทั้งวิธีติดตั้ง เก็บกู้
สันติบาลบึงกาฬเดินหน้าปลูกฝังเครือข่ายเยาวชนรักชาติ จัดกิจกรรมเสริมสร้างความจงรักภักดี
“สอนน้องว่ายน้ำ Everybody Swims” เพิ่มทักษะเอาตัวรอด
“เท้ง ณัฐพงษ์” เล่นใหญ่ ลั่นถ้าภูมิใจไทยเป็นแกนจัดรัฐบาล ปชน.จะเป็นฝ่ายค้าน ฟุ้งย้ายสส.โดนคดี-ร้องศาลรธน.ลงปาร์ตี้ลิสต์ คือการบริหารความเสี่ยง
เทศบาลนครนครสวรรค์ จัดการแข่งขันกีฬา รร.อนุบาล ส่งเสริมพัฒนาการ เติบโตสมวัย สานสัมพันธ์โรงเรียนและครอบครัว
ภูเก็ตเดินหน้านโยบาย “Zero E-Cig” ขับเคลื่อนจังหวัดปลอดบุหรี่ไฟฟ้า

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​