“ภราดร” ยันภท.จริงใจแก้รธน.ไม่ได้ฉีก MOA หักหลังปชน. ลั่นยังทำหน้าที่ป้องภัยประเทศ แต่คนละครึ่งพลัสเฟส 2 ต้องหยุดก่อน


ข่าวที่น่าสนใจ
12 ธันวาคม 2568 นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ในที่ประชุมสภาเมื่อวานนี้ จะทำให้พรรคภูมิใจไทยถูกมองว่าไม่จริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่าถ้าย้อนไปดูดี ๆ พรรคที่มีความจริงใจที่สุดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนว่าไม่น่าจะเกินเลยกว่าพรรคของพวกตน ซึ่งตนได้เคยอภิปรายไว้ตั้งแต่วาระแรกว่า เราจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประสบความสำเร็จให้ได้ อะไรที่เป็นอุปสรรคและดูแล้วว่าไม่สามารถที่จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ หรือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญสะดุดลงได้ เราจะพยายามปลดชนวนตรงนั้นออกทั้งหมด


ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าหลายเรื่องที่อยู่ในร่างของพรรคภูมิใจไทยก็ยอมถอยออกในชั้นกรรมาธิการ เช่นเดียวกับการลงมติของพรรคภูมิใจไทยเมื่อวานนี้ ในมาตรา 256/28 ที่เป็นการแข่งกันระหว่างร่างของกรรมาธิการเสียงข้างมาก และคำแปรญัตติของสว. ซึ่งสว.พูดว่าหากเรื่องนี้ สว.แพ้ในชั้นวาระที่ 2 ในวาระที่ 3 สว.ก็ไม่โหวตให้ เราจึงรู้ว่าถ้าเรายืนตามในเสียงข้างมาก สิ่งที่เกิดขึ้นในวาระที่3 คือจะไม่ได้เสียงจากสว. ถึง 67 เสียงอย่างแน่นอน ดังนั้นพรรคภูมิใจไทยจึงต้องตัดสินใจ ซึ่ง ไม่ใช่การตัดสินใจจากเนื้อหาสาระของตัวร่าง
ทั้งนี้ เรารู้ว่าบางครั้งเนื้อหาในร่างอาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจแต่เราดูที่ปลายทาง คือเราสัญญาว่าจะพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ ดังนั้น ฃถ้ารู้ว่าหากทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดแล้ววาระ 3 เดินไม่ได้ เราก็เลือกในสิ่งที่จะทำให้เดินต่อไปได้ในวาระที่ 3 จึงจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจไปลงมติในวาระที่ 2 ตามการสงวนความเห็นของสว. ซึ่งจะเห็นว่าทันทีที่เปิดประชุมในสมัยสามัญในวันที่ 10 ธันวาคม ตนเป็นคนที่ลุกขึ้นหารือกับประธานสภาฯ เพื่อที่จะแจ้งประธานว่า ตนจะเสนอญัตติด่วนเป็นเอกสารวาระ ให้ประธานบรรจุไว้ในระเบียบวาระเรื่องของการทำประชามติ คำถามที่1 เรื่องรัฐธรรมนูญ ซึ่งก่อนหน้านี้ในการประชุมครม.ในวันอังคารที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะนำเรื่องประชามติคำถามที่ 1 เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อให้มีมติ แต่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นการริเริ่มทำประชามติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ควรที่จะต้องเริ่มจากรัฐสภา จึงไม่สามารถเอาเข้าที่ประชุมครม.วันนั้นได้ จึงจำเป็นต้องเสนอญัตติด่วนในสภา ดังนั้นสองเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเรามีความจริงใจกับการเดินตาม MOA ที่ได้สัญญากับพรรคประชาชนและสัญญากับประชาชนไว้

เมื่อถามว่า มีการมองว่าเรื่องนี้เป็นแผนของพรรคภูมิใจไทยที่ต้องการจะหักหลังพรรคประชาชนตั้งแต่แรก นายภราดร กล่าวว่า ไม่ เงื่อนไขนี้ไม่ได้อยู่ใน MOA ลองไปอ่าน MOA ทั้ง 5 ข้อดู มันไม่มีเงื่อนไขใดที่ระบุลงไป ในเนื้อหาสาระต้องเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งอย่างที่ตนบอกว่าเราจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ ฉะนั้นอะไรที่เป็นอุปสรรคกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเราต้องถอดออกทั้งหมด ซึ่งประเด็นนี้เป็นประเด็นที่เป็นอุปสรรค เราพยายามที่จะเดินหน้าให้ทำสำเร็จในวาระที่ 3 ได้
เมื่อถามว่า เราจะสามารถบอกประชาชนได้ใช่หรือไม่ว่า ในขณะที่ชายแดนมีการสู้รบ แต่ในทางการเมืองก็จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ นายภราดร ระบุว่า ในเรื่องภัยต่างๆ รัฐบาลก็ยังคงรักษาการอยู่จนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ สิ่งใดที่กำลังดำเนินการค้างอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องภัยสงคราม และ ในเรื่องภัยพิบัติ รัฐบาลสามารถปฎิบัติหน้าที่ได้เหมือนรัฐบาลปกติ
เมื่อถามถึงโครงการคนละครึ่งพลัสเฟส 2 จะต้อง ถูกหยุดโครงการไปก่อน เนื่องจากไม่สามารถนำงบประมาณมาใช้ในช่วงนี้ได้ใช่หรือไม่ นายภราดร กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งพลัสเฟส 2 ตนคิดว่าจะต้องหยุดไว้ก่อน เพราะด้วยข้อจำกัดตัวกฎหมายเลือกตั้งไม่สามารถที่จะทำได้ ซึ่งรัฐบาลได้พยายามดำเนินการและประชาสัมพันธ์ไปแล้ว ขณะเดียวกัน นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็อยากจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่จะถึงนี้ แต่ก็ประกาศยุบสภาเสียก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น