เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2564 หลังจากกลุ่มชาวบ้านคลองน้ำใส และบ้านเจ็ดหลัง ในตำบลโคกปี่ฆ้อง อ.เมืองสระแก้ว ขึ้นโรงพักปางสีดา แจ้งความกับ เมียอดีตรองนายก อบต.แห่งหนึ่ง พร้อมพวก เก็บบัตรประชาชนชาวบ้านเอาไปกู้เงินแสน ผ่านแอพพลิเคชั่นเคพลัส ธนาคารกสิกรไทย เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีชาวบ้านหลายคน มีใบแจ้งหนี้จากธนาคารกสิกรไทย คนละตั้งแต่ 240,000 ไปจนถึง 370,000 บาท แต่ได้รับเงินสดจากกลุ่มนายหน้า เมียอดีตรองนายก อบต.เพียงไม่กี่หมื่นบาท
โดย พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สระแก้ว มอบหมายให้ พ.ต.อ.ชัยพร ทองนาเพียง รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สระแก้ว เป็นหัวหน้าดูแลคดีนี้ ล่าสุด ร.ต.อ.ชูศักดิ์ กลางประพันธ์ ร้อยเวรฯ โรงพักปางสีดา ได้นำหมายจับจากศาล จ.สระแก้ว เลขที่ จ.266/2564 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2564 แจ้งข้อกล่าวหากับนางสำรวย ประทาย (เมียอดีตรองนายก อบต.) อยู่บ้านเลขที่ 487 ม.3 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี และนางสาวฉันทะนี ประทาย (ลูกสาวนางสำรวย) ตามหมายจับเลขที่ จ.267/2564 ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน , ฉ้อโกง , เอาไปเสียหรือยึดไว้ซึ่งบัตรหรือใบแทนใบรับของผู้อื่นเพื่อประโยชน์ สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ , ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดย พ.ต.อ.ชัยพร ทองนาเพียง รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สระแก้ว ยืนยันว่า คดีนี้ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 3 คน โดยแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 2 คน ส่วนอีกคนยังหลบหนี
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ในวันนี้ (25 ต.ค.) กลุ่มชาวบ้านใน ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว จะรวมตัวกันขึ้นโรงพักเขาสิงโต แจ้งความดำเนินคดีในการหลอกเก็บบัตร แต่เกิดเปลี่ยนใจ ไม่แจ้งความดีกว่า…
ยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าว TOPNEWS จังหวัดสระแก้ว
