“ปลัด สปน.”สั่งทีมตรวจ 4 องค์กรผู้บริโภค หลังถูกร้องขาดคุณสมบัติ

“ปลัด สปน.”สั่งทีมตรวจ 4 องค์กรผู้บริโภค หลังถูกร้องขาดคุณสมบัติ

จากกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้นำหลักฐานมายื่นเรื่องให้ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีตรวจสอบ กรณีเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคจำนวน 4 องค์กร แบ่งเป็นจังหวัดลำพูน 2 องค์กร และ จังหวัดลำปาง 2 องค์กร ที่พบว่ามีการจัดตั้งองค์กรที่ไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.จัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ.2562 มาตรา 5 (1) คณะกรรมการต้องไม่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่มีหลักฐานปรากฏว่า องค์กรดังกล่าวมีคณะกรรมการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งถือว่าขาดคุณสมบัติในการจัดตั้งองค์กร และองค์กรเหล่านี้ได้ไปรวมตัวกัน 151 องค์กร ขอจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเป็นเงินอุดหนุนจำนวน 350 ล้านบาท เมื่อพบหลักฐานองค์กรที่จัดตั้งขาดคุณสมบัติแล้ว สภาองค์กรของผู้บริโภคจะสิ้นสภาพไปด้วยหรือไม่

ล่าสุดวันนี้(25 ต.ค.) นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทีมข่าว TOPNEWS ถึงประเด็นดังกล่าวนี้ว่า เพิ่งจะทราบเรื่องว่ามี 4 องค์กร ใน 2 จังหวัดคือ ลำพูน และลำปาง ที่ขาดคุณสมบัติในการจัดแจ้งเครือข่ายองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค เดี๋ยวตนจะให้ทีมงานตรวจสอบไปที่จังหวัดอีกครั้งหนึ่ง ของตรวจสอบข้อมูลก่อน เมื่อถามว่าถ้าตรวจสอบแล้วหากพบว่าองค์กรขาดคุณสมบัติจริง แล้วสถานะของ สภาองค์กรของผู้บริโภคจะเป็นอย่างไร นายธีรภัทรตอบว่า ขอดูข้อมูลก่อน มันมีเกณฑ์เบื้องต้นอยู่แล้ว ก่อนที่จะขอวางสายเพื่อไปประชุม

สำหรับเรื่องนี้ สำนักข่าวท็อปนิวส์ ได้ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก พบองค์กรที่แจ้งจดด้วยข้อมูลเอกสารอันเป็นเท็จจำนวน 4 องค์กร อยู่ที่จังหวัดลำปาง 2 แห่งคือ 1.ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคตำบลแม่กัวะ ต.แม่กัวะ อ.สบปราบ ,2. ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคตำบลหนองหล่ม ต.หนองหล่ม อ.ห้างฉัตร และจังหวัดลำพูนอีก 2 แห่ง คือ 1. กลุ่มพึ่งตนเองบ้านแม่ป็อก ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ , 2. กลุ่มเอ็มลี้รักสุขภาพจังหวัดลำพูน
จากข้อมูลนี้หาก สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี วินิจฉัยองค์กรผู้บริโภคเหล่านี้ไม่มีคุณสมบัติหรือคุณลักษณะตามที่กฎหมายบัญญัติ ผู้ที่ร่วมจัดตั้งย่อมเข้าข่าย “แจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่รัฐ” ตาม ป.อ.มาตรา 137 ที่บัญญัติไว้ความว่า “ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะมีคำวินิจฉัยสภาองค์กรของผู้บริโภค นี้อย่างไรเพราะเมื่อองค์กรลูกผิดกฎหมาย การรวมตัวจัดตั้ง 150 องค์กร จัดตั้งองค์กรแม่ก็ไม่ถูกต้องชอบธรรม จะปล่อยให้องค์กรแบบนี้มาใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินกว่า 350 ล้านบาทต่อไปได้อย่างไร

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

'เจอร์ไฮ' และ 'จินนี่' ชูนวัตกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงตอบโจทย์ตลาดพรีเมียม ขับเคลื่อนแบรนด์ไทยสู่ระดับโลก
สุชาติ ชง ครม. ไฟเขียว! ไทยยกระดับ NDC 3.0 เร่งขับเคลื่อน Net Zero 2050 สู้โลกเดือด พลิกโอกาสเศรษฐกิจยั่งยืน
กองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (กองทุน ป.ป.ช.) เปิดรับข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนเงินจากกองทุน ป.ป.ช. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ระหว่างวันที่ 4 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม 2568
MEA ห่วงใย ลอยกระทงปลอดภัย ห่างไกลอันตรายจากกระแสไฟฟ้า
"สหพัฒนพิบูล" คว้าคะแนน CGR ระดับ 5 ดาว "ดีเลิศ" ต่อเนื่องปีที่ 3 พร้อมรับ 100 คะแนนเต็ม ประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 4 ปีซ้อน ตอกย้ำองค์กรโปร่งใส ยึดมั่นหลักธรรมาภิบาลสู่ความยั่งยืน
MEA เผยผลสำเร็จโครงการทดลอง TOU บ้านอยู่อาศัยกว่า 93% ประหยัดค่าไฟจริง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​