“นฤมล” นำทีมหารือ Huawei ร่วมพัฒนา AI ยกระดับการศึกษาไทย ลดภาระงานครู พร้อมนำหลักสูตรจีนเพิ่มทักษะการเรียนการสอน


ข่าวที่น่าสนใจ
3 ธันวาคม 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ร่วมประชุมหารือและแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลด้านการศึกษา ร่วมกับ Huawei technologies (thailand) co. ltd (บริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด) นำโดย นายเจสัน หลี่ คณะกรรมการบริหาร และคณะ พร้อมมี นายวิษณุ ทรัพย์สมบัติ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้แทนสำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน สพฐ. และผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สป. เข้าร่วม ณ ห้องประชุมวชิราวุธ กระทรวงศึกษาธิการ


รมว.ศธ. กล่าวว่า เทคโนโลยี AI ถือเป็นโอกาสสำคัญของภาครัฐ โดย Huawei ได้นำเสนอแนวทางการใช้ AI เพื่อ ลดขั้นตอนงานธุรการของสถานศึกษา เช่น งานเอกสาร การประเมินผล การจัดตารางเรียน รวมถึงระบบบริหารจัดการภายในโรงเรียน ซึ่งจะช่วยลดภาระครู เพิ่มเวลาสอน และยกระดับการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนา “Smart Classroom” และระบบวิเคราะห์ข้อมูลการเรียนรู้แบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในโรงเรียนสังกัด ศธ. ได้ทันทีหากมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน

ขณะเดียวกัน Huawei ได้นำเสนอโมเดลหลักสูตร AI ของประเทศจีน ซึ่งกำหนดให้ผู้เรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา ได้รับการเรียนรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์อย่างน้อยปีละ 8 ชั่วโมง ผ่านการบูรณาการในรายวิชาเทคโนโลยี คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ควบคู่กับการจัดตั้งห้องปฏิบัติการ AI (AI Lab) การเรียนรู้ผ่านโครงงานจริง (Project-based Learning) และการพัฒนาครูให้ทำหน้าที่เป็น “AI Coach” รวมถึงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำโดย Huawei ระบุว่า รูปแบบดังกล่าวช่วยสร้างเส้นทางการเรียนรู้ด้าน AI อย่างต่อเนื่องตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นปฏิบัติจริง ทำให้นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรนี้สามารถก้าวสู่ทักษะระดับอาชีพ เช่น AI Developer, ผู้พัฒนาระบบอัจฉริยะ หรือบุคลากรด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ต่อไป ถือเป็นแนวทางที่สามารถนำมาปรับใช้กับบริบทของประเทศไทยได้ในอนาคต
“ก่อนขยับแผนขนาดใหญ่ เราต้องเตรียมความพร้อมหลายด้าน ทั้งบุคลากร ครู และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ซึ่งขอเน้นย้ำในเรื่องการอบรมความรู้ด้าน AI ให้กับครูเพื่อใช้อย่างปลอดภัย รอบคอบ และให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และความจำเป็นที่แตกต่างกันของแต่ละจังหวัด โดยกระทรวงฯ ยินดีเปิดรับความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้เท่าเทียมและทันสมัยยิ่งขึ้น” ศ.ดร.นฤมล กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น