วัยรุ่นเกาหลีใต้จบชีวิตหลังโดนแชร์ภาพขโมยของ

-ที่เกาหลีใต้ มีกรณีอุทาหรณ์การส่งต่อภาพบุคคลแบบไม่เซ็นเซอร์ที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม นักเรียนม.ปลาย ตัดสินใจจบชีวิตในวัย 18 ปี หลังจากภาพที่เธอขโมยไอศกรีมในร้านค้า ถูกแชร์ไปทั่ว

 

 

โคเรีย เฮรัลด์ รายงานเรื่องนี้โดยระบุชื่อนักเรียนม.ปลาย ว่า ลี อายุ 18 ปี ถูกพบเป็นศพอยู่ที่บ้านในเมืองฮองซอง จังหวัดชุงชองใต้ เมื่อวันที่ 23 กันยายน หลังจากไม่กี่วันก่อนหน้านั้น ภาพที่เธอขโมยไอศกรีมในร้านสะดวกซื้อแบบไม่มีพนักงานประจำร้าน ถูกแชร์ว่อน

 

ตามรายงานของโคเรีย เอ็นจีโอ สื่อท้องถิ่น เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ระบุว่า ลีขโมยไอศกรีม 2 หรือ 3 ครั้งจากร้านค้าใกล้โรงเรียน เธอส่งข้อความสารภาพกับเพื่อนว่า เธอขโมยจริง อ้างว่าไม่มีเงิน ต่อมา บอกเพื่อนอีกคนว่า ของที่เธอขโมย ราคาประมาณ 5 พันวอน หรือประมาณ 100 บาท /ไม่กี่วันก่อนเสียชีวิต เจ้าของร้านส่งภาพถ่ายของลีขณะขโมยไอศกรีม ที่แคปจากคลิปกล้องวงจรปิด ไปให้กับติวเตอร์คนหนึ่งที่เขารู้จัก จากนั้น คนที่ได้รับก็ส่งต่อให้นักเรียนในห้องดู โดยบอกว่า คนนี้ขโมยไอศกรีม ช่วยกันหาว่าเป็นใคร โดยภาพที่ส่งต่อนั้นไม่มีการเซ็นเซอร์เลย จากภาพที่เห็นเฉพาะในห้องติวหนังสือ ก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่นักเรียน ไม่นานนัก พี่ชายของลี ก็ได้รับ

 

เมื่อลีรู้ว่าภาพของตัวเองถูกแชร์ไปทั่ว เกิดความหวาดวิตกขั้นรุนแรง เธอส่งข้อความไปหาเพื่อนว่า จะทำอย่างไรดี “ใจเธอสั่นไปหมด” “ไม่กล้าสู้หน้าใครในฮองซองแล้ว” พี่ชายกล่าวว่า น้องสาวไปปรึกษากับเขาในคืนก่อนหน้าว่า ไม่รู้จะไปต่ออย่างไรดี ขณะที่แม่ของเธอ เตรียมการไปพบกับเจ้าของร้านเพื่อแก้ปัญหา แต่ลูกสาวตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเสียก่อนในเช้าวันต่อมา

 

14 ตุลาคม ครอบครัวตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจ กล่าวหาเจ้าของร้านละเมิดกฎหมายคุ้มครองมูลส่วนบุคคล ส่วนติวเตอร์ที่แชร์ภาพ ถูกกล่าวหาละเมิดกฎหมายส่งเสริมการใช้ประโยชน์เครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสาร

 

พ่อของเธอกล่าวว่า ลูกสาวตกเป็นเป้าของการล้อเลียน และเยาะเย้ย เพราะการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างผิดกฎหมาย ลูกสาวจบชีวิตตัวเองด้วยความกลัวและจนตรอก เขาหายใจไม่ออกทุกครั้งเมื่อคิดถึงความสิ้นหวังและความกลัวที่ลูกสาวเผชิญ และร้องไห้ทุกวันเมื่ออ่านข้อความสุดท้ายในโทรศัพท์ของลูก เขาต้องการให้ลงโทษผู้กระทำผิดอย่างรุนแรง

 

โศกนาฏกรรมของนักเรียนวัย 18 จุดประเด็นถกเถียงเรื่องความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง โคเรีย เฮรัลด์ รายงานว่า ร้านค้าติดรูปถ่ายคนขโมยของที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ไว้ที่หน้าร้าน เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหลายราย โดยเฉพาะร้านที่เปิดบริการแบบไร้พนักงานและมักตกเป็นเป้าขโมยของ เขียนในโลกออนไลน์ว่า พวกเขาสูญเสียไม่รู้กี่ครั้งกี่หนจากการลักขโมยในร้าน การติดรูปให้เห็นกันทั่ว ดูเหมือนเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยป้องปรามได้ แต่สังคมตั้งคำถามว่า การเผยแพร่ภาพแบบไม่มีการเซ็นเซอร์เลย เหมาะสมหรือไม่ โดยเฉพาะในกรณีเป็นเยาวชน หากเยาวชนก่อเหตุลักเล็กขโมยน้อย ควรส่งให้กฎหมายจัดการ ไม่ใช่ประจาน การแพร่ภาพของลี ไม่ต่างจากการใช้ม็อบดิจิทัลลงโทษ

 

ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายในเกาหลีใต้ เตือนว่า การเผยแพร่ภาพระบุตัวตนของบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอม ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ละเมิดความเป็นส่วนตัวหรือหมิ่นประมาท ดังคดีเมื่อ 3 ปีก่อน เจ้าของร้านค้าแห่งหนึ่งในเมืองอินชอนถูกปรับ หลังจากติดรูปเด็กที่ถูกกล่าวหาขโมยการ์ดโปเกมอน ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การเผยแพร่รูปต่อสาธารณะ โดยเฉพาะรูปของผู้เยาว์ อาจก่อความเสียหายที่ไม่อาจย้อนกลับได้

 

ภาพปก  camilo jimenez on Unsplash

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พรรคเป็นธรรม" ประกาศปลด "กัณวีร์" พ้นเลขาฯ อ้างมติโหวตเลือก "อนุทิน" นั่งนายกฯ
สุพรรณบุรี///ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานตรวจเยี่ยมโครงการโคกหนองนาเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี
ตำรวจคุมตัว “นานา ไรบีนา” เข้าห้องขัง เตรียมส่งศาลพรุ่งนี้ เจ้าตัวปฏิเสธถึงข้อกล่าวหา เร่งขยายผลเรียกสอบ “เวย์ ไทเทเนียม”
กฟผ.ภาคใต้เปิดเวทีพบสื่อ นำเสนอแผนพัฒนาระบบไฟฟ้ารองรับภาคใต้เติบโต
ครม. ไฟเขียวต่ออายุผลิตแหล่งไพลิน 10 ปี รักษาก๊าซอ่าวไทย 400 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน
"กรมโยธาฯ" เปิดสายด่วน 1531 ตั้งศูนย์ตรวจสอบความแข็งแรงอาคาร-บ้านเรือน พื้นที่น้ำท่วมหาดใหญ่

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​