ขแมร์ ไทมส์ สื่อหลักกัมพูชา รายงานว่า ข้อตกลงกำหนดกรอบความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนแรงงาน ได้รับการลงนามโดย นายเฮง ซัวร์ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานและการฝึกวิชาชีพกัมพูชา กับนายกิเดียน ซาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ที่นครเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม คาดว่าการรับสมัครแรงงานเบื้องต้นจะมุ่งเน้นไปที่ภาคการเกษตร ซึ่งอิสราเอลได้รับการยอมรับระดับโลกในด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย และจะมีการเปิดรับแรงงานภาคส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติมต่อไปในอนาคตอันใกล้
อิสราเอลมีความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งในภาคเกษตรกรรมและการก่อสร้าง ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ขึ้นชื่อเรื่องการให้ค่าตอบแทนสูง ส่งผลให้อิสราเอลกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดใจสำหรับแรงงานต่างชาติมากขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย ต่างยกย่องข้อตกลงนี้ว่าเป็นหมุดหมายสำคัญ ที่ไม่เพียงแต่จะสร้างโอกาสการจ้างงานใหม่ ๆ ให้กับชาวกัมพูชาเท่านั้น แต่ยังช่วยกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการทูตให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นอีกด้วย
นายซุน เมสา โฆษกกระทรวงแรงงานกัมพูชา กล่าวเมื่อวาน ( 2 ธ.ค.) ว่า ข้อตกลงฉบับนี้ เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างกัน ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสการจ้างงานใหม่ ๆ สำหรับแรงงานชาวกัมพูชา ซึ่งอาจจะทำรายได้เกือบ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6 หมื่นบาทต่อเดือน สิ่งสำคัญที่สุดคือ แรงงานกัมพูชาจะมีโอกาสได้เรียนรู้จากเทคโนโลยีขั้นสูงของอิสราเอลในภาคการเกษตร สำหรับกัมพูชา นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะส่งแรงงานของเราไปทำงาน งานเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมีทักษะระดับสูง เพราะจะได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติมในอิสราเอล
ในระหว่างการเยือนอิสราเอลเมื่อ 30 พฤศจิกายน นายเฮง ซัวร์ รัฐมนตรีแรงงานฯ ยังได้พบปะกับกลุ่มนักศึกษาฝึกงานด้านการเกษตรชาวกัมพูชาประมาณ 30 คน ที่กำลังฝึกอบรมอยู่ที่สถาบัน อะโกรสตั๊ดดี้ส์ ( AgroStudies) ที่เมืองเนทันยา ประเทศอิสราเอลด้วย โฆษกกระทรวงแรงงานกล่าวว่า ในขณะที่กัมพูชาและอิสราเอล กำลังพยายามสร้างเสริมความสัมพันธ์ทางการทูตที่ยาวนานกว่าสามทศวรรษ ความร่วมมือระหว่างสองประเทศจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ผ่านโครงการลงทุน การค้า การศึกษา การท่องเที่ยว และการเกษตรที่จะเป็นรากฐานสำคัญของความร่วมมือในอนาคต

