เมื่อเวลา 14:00 น. ของวันนี้ (28 พฤศจิกายน 2568) นายประพิศ ญาณปัญญา นายอำเภอโป่งน้ำร้อน เชิญพระเกจิดังของจังหวัดจันทบุรี มาประกอบพิธีถึง 3 วัดดังนี้
1.พระครูวิบูรณ์ธรรมโมภาส เจ้าคณะอำเภอสอยดาว เจ้าอาวาสวัดเขาสุกิม
2.พระครูสุนทรธรรมะวิวิธ วัดเขากระแจะ อำเภอเมือง
3.พระอาจารย์ปิติภัทรฐานิยม เจ้าอาวาสวัดเขามโนรมย์ อำเภอมะขาม
และพระสงฆ์ผู้ช่วยอีกจำนวน 4 รูป รวมทั้งหมด 7 รูป
มีผู้เข้าร่วมพิธีประกอบด้วย คนขับรถแม็คโคร ประชาชนที่สนับสนุนภารกิจสร้างถนน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดนที่11 เดินทางขึ้นเขาถนนเรียบชายแดน อำเภอโป่งน้ำร้อน เพื่อตั้งโต๊ะบวงสรวง ทำพิธีเปิดปลาขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง เนื่องจากขณะนี้ได้เปิดทางเลยจากพื้นที่ตัว U ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดน เนื่องจากพบร่องรอยของการเปลี่ยนทิศทางน้ำ จนทำให้พื้นดินขาดออกจากประเทศไทย จนต้องมีการสร้างถนนเพื่อเดินทางไปซ่อมแซม และยังใช้เป็นถนนส่งกำลังบำรุง เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย แต่ได้มีการทำถนนเพิ่มเติม เดินทางไปยังฐานปฏิบัติการของทหารพราน ชื่อฐานเครือหวาย ซึ่งเป็นฐานสุดท้ายของจังหวัดจันทบุรี อยู่เขตติดต่อ ตำบลหนองบอน อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 9 กิโลเมตร ปัจจุบันดำเนินการได้ประมาณ 7 กิโลเมตรแล้ว คงเหลืออีกประมาณ 2 กิโลเมตรเศษก็จะถึงจุดหมาย คือฐานเครือหวาย
ทางคณะผู้ทำโครงการ รวมทั้งกู้สนับสนุน ทั้งกำลังเงิน และอื่นๆ จึงร่วมกันทำพิธีบวงสรวง ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในป่า เพื่อให้การดำเนินการสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
สำหรับการเริ่มทำพิธี มีการปักเสาธงชาติพร้อมมีผ้ายันต์ประกบติดกับธง ติดตั้งที่ความสูงประมาณ 10 เมตร
โต๊ะบวงสรวงประกอบไปด้วย อาหารหวานคาว เช่นหัวหมูจำนวน 2 หัว ไก่ต้ม 2 ตัว ปลานึ่ง ปลาทอด กับข้าว รวมทั้งขนม ผลไม้นาๆชนิด
ข้าวตอกดอกไม้ ” รวมถึงรูปถ่ายของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ “ มาตั้งเป็นประธานพิธี โดยมีพระอาจารย์ปิติภัทรฐานิยม เจ้าอาวาสวัดเขามโนรมย์ อำเภอมะขาม เป็นพิธี เปิดเสียงสวดมนต์ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นอันดับแรกในการประกอบพิธี จากนั้นจึงเริ่ม ท่องคาถาตามบทสวดต่างๆ
หลังเสร็จพิธีแล้ว จึงมอบเงินเพื่อเป็นกำลังใจและใช้เป็นค่าใช้จ่ายในภารกิจสร้างถนนแห่งนี้ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 132,100-. บาท (หนึ่งแสนสามหมื่นสองพันหนึ่งร้อยบาท)
นอกจากนี้ยังมอบ วัตถุมงคลเป็นพระเครื่องและผ้ายันต์ป้องกันภัย พร้อมข้าวของที่จำเป็น อย่างเช่นอาหารและเครื่องดื่ม ให้กับเจ้าหน้าที่ทหารที่ต้องปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนี้อีกด้วย
ร้อยตำรวจเอก โกเศรษฐ นันทคีรี รองสารวัตรกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่11 เจ้าหน้าที่ชุดตรวจและเก็บกู้วัตถุระเบิดให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้ทำถนนมาแล้วระยะทางประมาณ 7 กิโลแล้ว มีอุปสรรคอย่างเช่น หุบเขาสูง เหว หินก้อนใหญ่ ทำไปแล้วต้องถอยหลังกลับหาทางใหม่ ระยะทางคงเหลืออีกประมาณสองกิโลเศษ จึงจะถึงฐานเครือหวาย
ในช่วงนี้ยังไม่พบวัตถุระเบิด แต่จากคำบอกเล่าของทหารพราน ระยะทางข้างหน้าอาจจะพบวัตถุระเบิดเป็นจำนวนมาก เนื่องจากจะเข้าสู่พื้นที่ซึ่งเคยเป็นสถานที่สู้รบของเพื่อนบ้านที่สู้รบกันเองเมื่อหลาย 10 ปีก่อน ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ขาดแคลนอะไร ได้กำลังใจมาเป็นอย่างมาก และจะดูแลเจ้าหน้าที่ที่ช่วยเหลือสร้างถนนกันในช่วงนี้ให้ดีที่สุดจนกว่าจะลุล่วงไปด้วยดี
