“ศป.กฉ.” แถลงวันแรก น้ำท่วมใต้ 7 จังหวัด เสียชีวิตแล้ว 33 ราย โต้ข่าวเท็จหาดใหญ่ จมน้ำดับ 80 ราย

"ศป.กฉ." แถลงวันแรก น้ำท่วมใต้ 7 จังหวัด เสียชีวิตแล้ว 33 ราย โต้ข่าวเท็จหาดใหญ่ จมน้ำดับ 80 ราย วอนหยุดแพร่ข่าวเท็จ ทำลายขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงาน

วันที่ 26 พ.ย. 68 นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ศป.กฉ. พร้อมด้วย นายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

นายสิริพงศ์ กล่าวยืนยันว่า ข่าวโรงพยาบาลหาดใหญ่มีจำนวนผู้เสียชีวิต 80 คน 100 คนบ้าง ไม่เป็นความจริง โดยได้รับการรายงานจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ ว่า มีจำนวนผู้เสียชีวิตจริง แต่มีเพียง 40 คน และเป็นผู้เสียชีวิตที่อยู่ในโรงพยาบาลอยู่แล้ว ซึ่ง 14 คน เป็นผู้เสียชีวิตจากการรักษาพยาบาล ไม่ใช่จากสถานการณ์น้ำท่วม

ทางด้านกระทรวงสาธารณสุข รายงานจำนวนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ครั้งนี้ ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดนครศรีธรรมราช , พัทลุง , สงขลา , ตรัง, สตูล , ปัตตานี และยะลา มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 33 คน คือ นครศรีธรรมราช 9 ราย , พัทลุง 4 ราย , สงขลา 6 ราย , ตรัง 2 ราย สตูล 2 ราย , ปัตตานี 5 ราย และ ยะลา 5 ราย

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

แบ่งสาเหตุการเสียชีวิต เช่น ถูกน้ำพัด ไฟฟ้าช็อต ดินถล่ม พลัดตกน้ำ และจมน้ำ

ขอวิงวอนผ่านสื่อมวลชนถึงประชาชนผู้ประสงค์ดีทุกท่านในการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ เพราะการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ จะทำให้เกิดความหวาดหวั่น ความไม่เชื่อมั่น และทำลายขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้ ขอให้ใช้ความระมัดระวัง

อย่างเช่นกรณี เมื่อเช้านี้ (26 พย.) ที่มีข่าวว่ามีเฮลิคอปเตอร์ตก ใกล้โรงพยาบาล ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ได้มีการตรวจสอบข้อมูลแล้วไม่มีเหตุการณ์ฮ.ตกแต่อย่างใด ขอความกรุณาในการเผยแพร่ข่าวการแชร์ข่าวต่อขอให้ใช้ความระมัดระวังด้วย

 

ทางศูนย์มีการรวบรวมข้อมูลผ่านระบบ ai เป็นที่เรียบร้อยแล้วและได้ส่งข้อมูลให้กับปภ.ส่วนหน้า แล้วจะมีการอัพเดทให้ทางศป.กฉ.ส่วนหน้าเป็นรายชั่วโมง

ในขณะเดียวกันวันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการได้รับทราบจากประชาชนจำนวนมากที่มีความต้องการให้การสนับสนุนช่วยเหลือต่อสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ จึงขอประชาสัมพันธ์ ว่าเราได้มีการเปิด “ศูนย์ธารน้ำใจช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ 2568” ณ พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศดอนเมือง ที่จะอำนวยความสะดวกในทุกมิติ ท่านที่อยู่ในต่างจังหวัด อาจจะมีการบริจาคของในศูนย์จังหวัดนั้นๆและจังหวัดจะเป็นผู้ดำเนินการจัดสรรมายังศูนย์นี้

ส่วนผู้ที่อยู่ในกรุงเทพมหานครก็สามารถบริจาคได้ในศูนย์นี้เช่นเดียวกัน ส่วนรายละเอียดและเบอร์โทรศัพท์จะขึ้นในเพจไทยคู่ฟ้า เพื่อไม่ให้การสื่อสารคลาดเคลื่อน นอกเหนือจากข้าวของเครื่องใช้แล้ว ยังยินดีที่จะรับการสนับสนุนเป็นกำลัง และทรัพยากร เช่น เจ็ตสกี คนขับสปีดโบ๊ท รถลากจุง รถยกสูง และ อุปกรณ์กู้ภัย สิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ซึ่งหากผู้ใดที่จะต้องการได้รับการสนับสนุน ทางศูนย์ จะมีเครื่องบิน C130 ส่งให้ทุกวัน วันละ 5 รอบ

 

 

พลโทวันชนะ สวัสดี รองโฆษกประจำศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ. )แถลงผลประชุมศูนย์ปฏิบัติผลการประชุมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยวันแรก ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

พลโทวันชนะ กล่าวว่า ศป.กฉ. ส่วนหน้าจัดตั้งขึ้นที่กองบิน 56 โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้รับผิดชอบในการบูรณาการและกระชับงานให้มีความรวดเร็ว

ปัจจุบันรับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดสงขลา แต่พื้นที่ที่วิกฤตอยู่ในขณะนี้คืออำเภอหาดใหญ่ เพราะฉะนั้นในจังหวัดสงขลา จึงจะมีการแบ่งโซนพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ส่วนที่วิกฤตก็คืออำเภอหาดใหญ่ และส่วนที่สองเป็นอำเภออื่นๆนอกเหนือจากหาดใหญ่

การดูแลพื้นที่อื่นๆ นอกจากหาดใหญ่จะมีกองพันประจำอำเภอในการดูแลประชาชน ส่วนหาดใหญ่ในปัจจุบันแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 พื้นที่และมีหน่วยในการดูแลทั้ง 4 พื้นที่ชัดเจน ซึ่งใน 4 พื้นที่จะมีรายละเอียดว่าประกอบด้วยชุมชนอะไร และหน่วยงานไหนรับผิดชอบ

สำหรับการจัดตั้ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า ก็จะมีส่วนบังคับบัญชา ส่วนสนับสนุน ส่วนอำนวยการ ส่วนปฏิบัติการ และส่วนประสานงาน ซึ่งส่วนประสานงานจะรับผิดชอบในเรื่องขององค์กรหน่วยงานภายนอก

ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากใครจะลงไปช่วยเหลือในพื้นที่ รวมถึงสื่อมวลชน อยากให้ไปติดต่อที่ ศป.กฉ.ส่วนหน้า ที่กองบิน 56 ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวก เพราะจะมีการบูรณะการครบในทีเดียว โดยจะมีการแบ่งว่าคนที่มาช่วยเหลือจะลงไปพื้นที่ใดร่วมกับเจ้าหน้าที่

เรื่องของการลงพื้นที่ช่วยเหลือ ศป.กฉ.ส่วนหน้า จะรับเคสต่างๆจากส่วนกลาง ที่ประชาชนและหน่วยงานแจ้งเข้ามา โดยจะมีการใช้AI ในการตรวจสอบข้อมูลเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน จากนั้นจะมีการแบ่งเคสส่งไปยังส่วนหน้าเพื่อให้ลงพื้นที่ปฏิบัติงานเข้าช่วยเหลือ

 

 

ขณะที่การบริหารจัดการ แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ 1. การบริหารจัดการคน คือการขนคนมาอยู่ในที่ที่ปลอดภัย หรือศูนย์พักพิง แต่ก็ยอมรับมีประชาชนบางส่วนที่ไม่ประสงค์ที่จะย้ายออกมาอาจจะห่วงทรัพย์สินตรงส่วนนี้เราก็จะดูว่าเขาอยู่ที่ไหนบ้าง รวมถึงจะมีการระบุพิกัด และจะจัดส่งอาหารเข้าไปให้

2. การบริหารจัดการสิ่งของ และการส่งความช่วยเหลือ ในของเครื่องอุปโภคบริโภคส่งให้ประชาชน รวมถึงสิ่งของที่รับบริจาคทั้งหมดเราจะจัดการอย่างไรส่งไปในพื้นที่อย่างไร รวมถึงอาหารปรุงสุกเรากระจายไปในพื้นที่อย่างไร รวมถึงหน่วยแพทย์ที่จะแบ่งหน้าที่ในการลงไปช่วยเหลือประชาชน และได้มีการจัดตั้งศูนย์รับบริจาคภายใน กรุงเทพมหานคร คือที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ส่วนในต่างจังหวัด คือมณฑลทหารบก ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ

3. การบริหารจัดการน้ำ เป็นส่วนที่จะช่วย บรรเทาเบาบาง เนื่องจากปัจจุบันการบริหารจัดการน้ำเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะท่วมเหมือนกันทุกพื้นที่ ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้ฝน และน้ำทะเลหนุนอาจจะทำให้มีน้ำเพิ่มเติมเข้ามาในพื้นที่ เราต้องมาดูว่าจะทำยังไงให้น้ำลดเร็ว

4. การจัดการเรื่องข้อมูลข่าวสาร คือการให้ข่าวเพื่อให้สื่อมวลชนไปกระจายข่าวสาร รวมถึงข้อมูลขอความช่วยเหลือที่มีมีเข้าหลายช่องทาง ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย ปภ. 1784 หรือ ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯอนุทิน" ลงนามคำสั่ง แบ่งงาน รองนายกฯ-รมต. ติดตามแก้ปัญหา รับผิดชอบฟื้นฟู 9 จว.น้ำท่วมใต้
กกต.ตราดติวเข้มผู้อำนวยการเลือกตั้งและกรรมการประจำ อบต. 28 แห่ง เตรียมรับสมัคร 1-5 ธันวา 68 เตือนผู้สมัครระวังคุณสมบัติพบผิดดำเนินคดี
ต้นแบบฟื้นฟูป่าต้นน้ำตามศาสตร์พระราชา เวียงสา–นาน้อย เดินหน้าสู่ความยั่งยืน
สส.หนึ่ง – คณะทำงาน ร่วมมอบอาหารและยา ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
ผู้การโคราชเปิดโครงการใหญ่ ตำรวจอาสามะเริงผนึกกำลังชุมชน คุมเข้มยาเสพติด สกัดอาชญากรรมในเขตเมืองขยายตัว
นายกอบต.คลองสามตรวจรื้อถอนเสาไฟฟ้าหลังนำสายไฟฟ้าลงดินระยะทาง 6 กม.

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​