วันที่ 16 พ.ย. 2568 ที่ห้องประชุมนวบานบุรี ชั้น 3 ศูนย์วิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส นายวีรพัฒน์ บุณฑริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดการประชุม Kick-off และ Co-Design Workshop ภายใต้โครงการวิจัย “การสร้างกลไกความร่วมมือในการขยายผลการพัฒนาเมืองต้นแบบชายแดนใต้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน” ร่วมกับ ผศ.ดร.สุริยจรัส เตะชะตันมีนสกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ โดยโครงการอยู่ภายใต้แผนงานย่อย N22 (S2P13) ในโปรแกรมพัฒนาเมืองน่าอยู่และพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ใช้วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมเป็นฐานการขับเคลื่อนตาม 5 มิติของ SDGs ได้แก่ มิติคน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ความปลอดภัย และความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา เพื่อปิดช่องว่างการทำงานแบบ “ต่างคนต่างอยู่” สู่ความร่วมมือเชิงสถาบัน

นายวีรพัฒน์ บุณฑริก ระบุว่า จังหวัดนราธิวาส ยะลา และสตูล เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ ทั้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ การค้า การลงทุน และการเชื่อมต่อสู่มาเลเซียและอาเซียน แม้มีทรัพยากรและศักยภาพด้านท่องเที่ยวโดดเด่น แต่ยังเผชิญปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ สถานการณ์ความไม่สงบ และข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีของวิสาหกิจชุมชน ทำให้แข่งขันในตลาดสมัยใหม่ได้ยาก โครงการนี้จึงมุ่งสร้าง “กลไกความร่วมมือเชิงสถาบัน” เพื่อเชื่อมโยงทุกภาคส่วน พัฒนานโยบายนวัตกรรม และถ่ายทอดเทคโนโลยีจากมหาวิทยาลัยสู่ชุมชน เพื่อยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน โดยมีกิจกรรม Co-Design Workshop เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน วิเคราะห์สถานการณ์ และร่วมออกแบบโซลูชันที่เหมาะสม

การประชุมแบ่งเป็นสองส่วนสำคัญ ได้แก่ การนำเสนอข้อมูลพื้นฐานของ 6 อำเภอในพื้นที่เป้าหมายคือ อำเภอเมืองนราธิวาส ตากใบ สุไหงโก-ลก แว้ง เบตง และควนโดน เพื่อให้ผู้ร่วมประชุมมีข้อมูลชุดเดียวกัน และกิจกรรม Co-Design Workshop แบ่งเป็นช่วง “ทบทวนอดีต – เข้าใจปัจจุบัน” เพื่อวิเคราะห์ทุนทางสังคม ปัญหา และผลลัพธ์ที่ผ่านมา และช่วง “ค้นหาจุดเด่น – ต่อยอดอนาคต” เพื่อออกแบบต้นแบบการพัฒนา โดยมีผู้แทนกว่า 7 กลุ่มเข้าร่วม ทั้งจากหน่วยงานรัฐ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยนเรศวร อปท. 6 อำเภอ ภาคเอกชน และนักวิจัย นายวีรพัฒน์กล่าวทิ้งท้ายว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างกลไกทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็ง สู่การถ่ายทอดเทคโนโลยี การสร้างบุคลากรแกนนำ “ครูค่ายชายแดน” และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน ก่อนประกาศเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ