“อนุดิษฐ์” ยันกล้าธรรมไม่ป้อง “สส.ชนนพัฒฐ์” ลั่นสวนโดนจี้ให้รับผิดชอบ ถามมาตรฐานพรรคต้องแบบไหน บางคนโดนพิพากษาจำคุกยังเฉยๆ

"อนุดิษฐ์" ยันกล้าธรรมไม่ป้อง "สส.ชนนพัฒฐ์" ลั่นสวนโดนจี้ให้รับผิดชอบ ถามมาตรฐานพรรคต้องแบบไหน บางคนโดนพิพากษาจำคุกยังเฉยๆ

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม โพสต์เฟซบุ๊กว่า ช่วง 2-3 วันนี้ ผมได้รับคำถามจากสื่อหลายสำนัก ถึงกรณีที่ สส.ชนนพัฒฐ์ ถูก ปปง.อายัดทรัพย์ จากข้อสงสัยเกี่ยวกับเส้นทางการเงินในคดีพนันออนไลน์ คำถามคือ พรรคกล้าธรรมต้องรับผิดชอบอย่างไร? และ รัฐมนตรีธรรมนัสควรลาออกหรือไม่?

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ผมขอชี้แจงดังนี้ครับ

1. เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็น “มาตรฐานเดียวกันของทั้งสภา” ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ของพรรค ผมยืนยันว่า กรณีของ สส.ชนนพัฒฐ์ ต้องตรวจสอบตามกฎหมายอย่างรอบด้านและเจ้าตัวมีหน้าที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ผ่านกระบวนการยุติธรรม พรรคกล้าธรรมจะไม่แทรกแซง ไม่ปกป้อง และไม่ขัดขวางการตรวจสอบผิดก็ต้องรับผิด แต่ถ้าถูก ก็ต้องคืนความเป็นธรรมให้เขาเช่นกันทั้งหมดขึ้นอยู่กับ “ข้อเท็จจริง” และ “กระบวนการยุติธรรม” ครับ

2. แต่ในขณะเดียวกัน…สังคมควรมองภาพใหญ่ด้วยความเป็นธรรม ทุกวันนี้ในสภามี สส.หลายคน ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ที่เคยถูกศาลชั้นต้นหรืออุทธรณ์พิพากษาจำคุก แต่ยังดำรงตำแหน่งต่อ และบางท่านเหล่านั้น กลับเป็นผู้เรียกร้องเสียงดังที่สุดว่า “สส.ชนนพัฒฐ์ ต้องลาออกทันที”

คำถามคือ…เรากำลังใช้มาตรฐานเดียวกันจริงหรือไม่? ผมไม่ต้องการพาดพิงบุคคลใดเป็นพิเศษ แต่เมื่อผู้แทนประชาชนบางคน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีของตนเอง ยังดำรงตำแหน่งต่อไปได้ หลักการเดียวกันก็ควรถูกใช้กับทุกฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะบางฝ่ายเท่านั้น นี่ไม่ใช่การตอบโต้ แต่เป็นการตั้งคำถามเรื่อง “มาตรฐานร่วมกันของสภา”ซึ่งสำคัญต่อความเชื่อมั่นของประชาชนครับ

 

3. พรรคกล้าธรรมยืนยันหลักการสำคัญ 3 ประการ

3.1ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าฝ่ายใด หากมีข้อกล่าวหา ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม

3.2เคารพกระบวนการยุติธรรมคำพิพากษาชั้นต้นหรืออุทธรณ์ ถือเป็นข้อเท็จจริงทางกฎหมายที่ทุกคนต้องรับผิดชอบ แม้คดียังไม่ถึงที่สุด ก็ไม่ควรทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

3.3 นักการเมืองต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ถ้าเราจะเรียกร้องให้คนอื่นลาออกเราก็ควรใช้มาตรฐานเดียวกันกับตัวเองเช่นกันสังคมไทยอยู่กับ “สองมาตรฐาน” มานานพอแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่อง “เอ็งชั่ว-ข้าเลว” และไม่ใช่การใช้คดีของคนอื่นเพื่อหาประโยชน์ทางการเมืองแต่คือความจำเป็นในการยกระดับความเชื่อมั่นของสภาผู้แทนราษฎรและทำให้ประชาชนเห็นว่า ประเทศไทยสามารถเดินไปบนมาตรฐานเดียวกันได้จริงก่อนจะกวาดบ้านให้คนอื่น เราต้องกวาดบ้านของตัวเองให้สะอาดก่อนเสมอ#สีเขียวก็ไม่เอาสีเทา เช่นกันครับ

 

 

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความพูดว่า "" ก่อนจะ กวาดบ้านให้คนอื่น กราด บ้าน ให้ค อื่น เราต้องกวาดบ้าน บ้าน ของตัวเองให้สะอาด วแอง อาด ก่อนเสมอ " น.จ.อนุดิษจ์ น.อ นาครทรรพ นาคร nss nssw ประธานยุทธศาสตรีพรรคกล้าธรรม"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯ อนุทิน" แจงเข้ม ๆ ผ่าน "ทรัมป์-อันวาร์" จุดยืนไทยชัดระงับปฏิญญาฯ จนกว่ากัมพูชาขอโทษ สารภาพละเมิดเงื่อนไข ลอบวางทุ่นระเบิดใหม่ทำทหารไทยขาดขาดรายที่ 7
สส.หนึ่ง เปิดการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร “งานวันกุ้งกระบี่” ครั้งที่ 22
ตร.ท่องเที่ยวเกาะลันตาช่วยนักท่องเที่ยวสโลวัก รถจักรยานยนต์ล้มเอง บาดเจ็บเล็กน้อย
สลด! พบร่าง “น้องโตโต้” วัย 2 ขวบ ถูกทิ้งริมถนนสาย 36 ระยอง สภาพเปลือย–มีบาดแผลทั่วร่าง ตร.เร่งไล่กล้องตามล่าคนร้าย
หญิงเร่ร่อนชื้อของจากเอเย่นนั่งเสพในห้องน้ำวัดพลเมืองดีเห็นแจ้ง ตร.คุมตัวดำเนินคดี
ปกครองบางละมุง เปิดยุทธการกวาดล้างสิ่งเสพติดรวบพระลูกวัดเอี่ยวขบวนการค้าคาผ้าเหลืองขยายผลรวบยกแก๊งของกลางเพียบ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​