ไอเอฟดีโพล ชี้คนไทย 50% หมดหวังการเมืองไทย–เลือกตั้งหน้าเสี่ยงวังวนเดิม

ไอเอฟดีโพล ชี้คนไทย 50% หมดหวังการเมืองไทย–เลือกตั้งหน้าเสี่ยงวังวนเดิม

วันที่ 14 พ.ย. 2568 ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (ดร.แดน) ประธานสถาบันการสร้างชาติ ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา และนางจิตติมา บุญวิทยา ผู้อำนวยการไอเอฟดีโพลและเซอร์เวย์ ร่วมแถลงผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนไทยตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เรื่อง “คนไทย 50% หมดหวังการเมือง–เลือกตั้งหน้าเสี่ยงวนเดิม 38% หนุนอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ” 1,272 ตัวอย่าง สำรวจ 12 – 13 พ.ย. 2568 ใน 6 ภูมิภาค โดยการลงภาคสนามและการโทรศัพท์ สุ่ม‍ตัวอย่างความน่าจะเป็น Stratified Four-Stage Random Sampling ค่าความผิดพลาด 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

 

 

ไอเอฟดีโพลสำรวจความเห็นประชาชนว่า “ความหวังต่อการเมืองไทยวันนี้ “กึ่งต่อกึ่ง” ฝั่ง “น้อย/ไม่มีเลย” รวม 50.15% สูงกว่าฝั่ง “มาก/พอมี” รวม 49.85% โดย “น้อย” สูงสุด 37.26%, “พอมี” 30.27%, “มาก” 19.58%, “ไม่มีเลย” 12.89% ส่วน ความหวังว่า “เลือกตั้งครั้งหน้า” จะพาไทยเสียงอยู่ในรูปแบบการเมืองเดิมๆ โดยฝั่ง “น้อย/ไม่เลย” รวม 51.65% สูงกว่า “พอมี/มาก” รวม 48.35% และโดย “พอมี (เปลี่ยนได้บางส่วน)” 34.43%, “น้อย (เปลี่ยนได้น้อย)” 34.83%, “ไม่เลย” 16.82%, “มาก (เปลี่ยนได้ชัดเจน)” 13.92%

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อสมมติถามว่า MOA ระหว่างภูมิใจไทย–พรรคประชาชนสะดุด ทางออกที่ประชาชนอยากเห็นมากที่สุดคือ 1) อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แล้วทำตามผลโหวต (หากแพ้โหวต ครม. พ้นทั้งคณะ) 37.81% ตามด้วย 2) อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล (แพ้โหวต พ้นเฉพาะราย) 18.16% 3) ยุบสภาก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ 16.12% 4) นายกฯ นอกบัญชี” 15.33% ส่วน 5) ‍รัฐประหาร 6.05% และ 6) อยากให้อยู่ครบวาระถึงปี 2570 4.09%

 

 

 

ด้านคะแนนนิยมพรรคสำหรับเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า “ยังไม่ตัดสินใจ” สูงสุด 29.48% รองลงมา พรรคประชาชน 23.66% พรรคภูมิใจไทย 9.20% พรรคเพื่อไทย 7.47% พรรคประชาธิปัตย์ 4.95% พรรครวมไทยสร้างชาติ 3.38% พรรคไทยสร้างไทย 2.36% พรรคพลังประชารัฐ 1.73% พรรคกล้าธรรม 1.18% พรรคอื่น/ไม่ประสงค์ลงคะแนน 11.48% และไม่ออกไปใช้‍สิทธิ์ 2.28% ไม่สนใจ/ไม่ตอบ 2.83%

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (ดร.แดน) ระบุว่า ผลโพลชี้อารมณ์สังคมยัง “ก้ำกึ่ง”: คนไทยเกือบครึ่งหมดหวังต่อการเมือง และกว่าครึ่งยังไม่มั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะเปลี่ยนรูปแบบเดิมได้มากนัก ขณะเดียวกัน หากข้อตกลงระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชนสะดุด ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้คลี่คลายในรัฐสภา และในภาวะทางตันมี 15.33% เสนอ “นายกรัฐมนตรีคนนอกบัญชี” ภายใต้กฎหมาย เพื่อทำหน้าที่ช่วงเปลี่ยนผ่านสู่การเมืองที่มีคุณภาพและพัฒนาประเทศให้เดินหน้า

 

 

จากผลสำรวจ ดร.แดน ยังวิเคราะห์ว่า “มีกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคใด” เกือบ 30% สะท้อนว่ายังไม่มีพรรคใดชนะขาด ส่งผลให้ภาพหลังเลือกตั้งน่าจะเป็นรัฐบาลผสม โดยพรรคขนาดใหญ่ เช่น ภูมิใจไทย เพื่อไทย หรือพรรคประชาชน จำเป็นต้องจับมือร่วมกับพรรคหน้าใหม่หรือพรรคขนาดเล็กต่าง ๆ เพื่อรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล ผมเสนอว่าอยากให้“พรรคการเมืองใหม่ที่มีคุณภาพ” หรือผมขอเรียกว่า “พรรคการเมืองใหม่สีขาว” ที่ควรรวมตัวจับมือกัน ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ แต่การจะได้รับการเลือกตั้ง จำเป็นต้องใช้ทุน ซึ่งจะขึ้นกับการสนับสนุนของนายทุน ดังนั้นนายทุนควรมุ่งสนับสนุนพรรคที่มีคุณภาพให้เกิดขึ้น โดยการเลือกตั้งครั้งหน้าสำคัญมาก เพราะประเทศไทยมี ‘หน้าต่างเวลา’ จำกัดไม่เกิน 5 ปีในการเร่งฟื้นตัวและพัฒนาประเทศ หากชะลอมากกว่านี้โอกาสแข่งขันจะลดลงอย่างรวดเร็ว

“ขอฝากถึง กกต. และผู้มีอำนาจ ตรวจสอบ ทุนเทา-ทุนดำที่รู้กันดีว่า มีส่วนค้ำจุนพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่ไม่เพียงแค่ทุนในประเทศ แต่รวมถึงทุนข้ามชาติเข้ามาจับมือทุนเทาไทย ที่เข้ามาเอาผลประโยชน์ ทำให้การเมืองจึงยังคงอยู่วังวนเดิม ประชาชนจึงควรมีส่วนตรวจสอบและหาผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งหากคนไทยมีสำนึก เป็นพลชาติ วันนั้นจะนำประเทศไทยให้ไปรอดได้” ดร.‍แดน ระบุ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ภูเก็ตจัดพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง
“หัวหิน” ต้อนรับอบอุ่น “นักเตะเขียวขาว” คว้าชัยอันดับ 4 ฟุตบอลกีฬา 7 สี แชมเปียน คัพ 2025
อบจ.เมืองคอนเดินหน้าก่อสร้างสนามกีฬากลาง อ.นบพิตำ งบกว่า 36 ล้าน
กต.เปิด 3 ตัวอย่าง “เขมร” ไม่จริงใจทำตามข้อตกลง ซัดสื่อกัมพูชาขาดจรรยาบรรณปั้นน้ำเป็นตัวกล่าวหาไทย
อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ "จีน" ถวายพระเกียรติสูงสุด "ในหลวง" ถือเป็นครั้งแรกทหารกองเกียรติยศ บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี บนแผ่นดินใหญ่ เปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้อง
รัฐบาลทรัมป์อนุมัติขายอาวุธมูลค่ากว่า 300 ล้านเหรียญให้ไต้หวัน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​