ด่วน “นายกฯอนุทิน” เผยมติที่ประชุมสมช. เห็นชอบระงับปฏิญญา “สันติภาพไทย-กัมพูชา”

นายกฯ เผย หลังถก สมช. นาน 3 ชม. มีมติระงับปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา ขอประชุม ครม. ก่อนแถลงเป็นทางการ

ด่วน “นายกฯอนุทิน” เผยมติที่ประชุมสมช. เห็นชอบระงับปฏิญญา “สันติภาพไทย-กัมพูชา” – Top News รายงาน

 

นายกฯอนุทิน

 

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 14/2568 ณ ห้องวิจิตรวาทการ ชั้น 3 สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากกรณีล่าสุดที่ทหารไทย 4 นาย ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับทุ่นระเบิด บริเวณห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน จึงจำเป็นต้องเรียกประชุมด่วน เพื่อพิจารณาเรื่องถ้อยแถลงผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชา ในการเจรจาข้อตกลงสันติภาพที่มาเลเซีย ว่าไทยจะมีแนวทางอย่างไร

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ ยังจะมีการหารือเรื่องยกเลิกการต่อใบอนุญาตแรงงานกัมพูชาด้วย ส่งผลให้ช่วงเช้าที่ผ่านมามีตัวแทนจากหน่วยงานความมั่นคงเดินทางมาเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง อาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.55 น.ที่ผ่านมา นายอนุทิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เดินออกมาหลังประชุม สมช. ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าในที่ประชุมจะมีมาตรการออกมาตอบโต้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขอไปประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนหลังจากนั้นจะแถลงทุกอย่างอย่างเป็นทางการ เมื่อถามย้ำว่าจะมีการยกเลิกปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชาเลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุสั้นๆ ว่า “ระงับ” เมื่อพยายามจะสอบถามถึงกรอบระยะเวลาที่จะระงับไว้ นายอนุทิน ไม่ตอบคำถามก่อนจะรีบเดินทางไปเข้าประชุม ครม. ที่ตึกบัญชาการ 1 ทันที

 

สำหรับปฏิญญาสันติภาพ ไทยและกัมพูชา ซึ่งมีการลงนามข้อตกลง ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2568 โดยผู้นำสหรัฐอเมริกาและมาเลเซียเป็นสักขีพยาน มีสาระสำคัญคือ มีการจัดตั้งกลไกผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) เพื่อกำกับดูแลการหยุดยิงและลดความตึงเครียดทางการทหารบริเวณชายแดน ประกอบด้วยข้อตกลง อาทิเช่น

1.ละเว้นการคุกคามหรือใช้กำลัง การแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติ และการเคารพต่อเขตแดนระหว่างประเทศ และต่อกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกันต่อเอกราช อธิปไตย ความเสมอภาค บูรณภาพแห่งดินแดน และอัตลักษณ์แห่งชาติของแต่ละประเทศ

2.ยึดมั่น และดำเนินการตามข้อตกลงที่ได้บรรลุร่วมกันในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป

3.จัดตั้งกลไกผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team หรือ AOT) ซึ่งจะประกอบด้วยบุคลากรจากรัฐสมาชิกอาเชียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงหยุดยิงได้รับการปฏิบัติอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ พวกเราเรียกร้องให้รัฐสมาชิกอาเซียนให้การสนับสนุนอย่างเหมาะสม เพื่อให้ AOT ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจให้บรรสวัตฤประสงค์

4.ร่วมกันลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเชื่อมันและความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างราชอาณาจักรกัมพูชากับราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้ เพื่อบรรลุและสนับสนุนเป้าหมายเหล่านี้ พวกเราได้ตกลงในขั้นตอนดังต่อไปนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อตกลงหยุดยิงจะได้รับการปฏิบัติอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ และเพื่อฟื้นฟูสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดน

ดำเนินการลดความตึงเครียดทางการทหารภายใต้การสังเกตการณ์และการยืนยันตรวจสอบโดย AOT ซึ่งรวมถึงการถอนอาวุธและยุทโธปกรณ์หนักและทำลายล้างสูงออกจากแนวชายแดน และนำกลับไปยังที่ตั้งปกติของหน่วยทหารแต่ละประเทศ ในบริบทดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายจะมอบหมายให้คณะทำงานของแต่ละฝ่ายร่วมกันหารือเพื่อนำไปสู่ข้อสรุปเรื่องการจัดทำแผนปฏิบัติการที่ปฏิบัติได้และเป็นขั้นตอน ภายใต้การสังเกตการณ์โดยคณะผู้สังเกตการณ์การหยุดยิงชั่วคราว (OT) และหลั้งจากนั้นโดย AOT ตามที่กำหนดในเอกสารขอบเขตการจัดตั้ง

รวมถึง ละเว้นการเผยแพร่หรือส่งเสริมการใช้ข้อมูลเท็จ การกล่าวอ้าง การกล่าวหา และวาทกรรมที่สร้างความเสียหาย ไม่ว่าจะผ่านช่องทางที่เป็นทางการของรัฐบาลหรือช่องทางไม่เป็นทางการ เพื่อลดความตึงเครียด บรรเทาความรู้สึกเชิงลบของสาธารณชน และสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการหารืออย่างสันติ

และเห็นพ้องที่จะดำเนินมาตรการสร้างความเชื่อมั่นโดยทันที เพื่อฟื้นฟูและรักษาความเชื่อมั่น ความไว้วางใจซึงกันและกัน และสันติภาพตามแนวชายแดน และเพื่อแก้ไขความแตกต่างอย่างสันติ ด้วยความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี มิตรภาพ และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และร่วมมือเพื่อนำไปสู่การฟื้นฟู ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ

5. เมื่อมีการดำเนินการตามมาตรการข้างต้นอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะยอมรับว่าเป็นการสิ้นสุดการเป็นปรปักษ์ที่ดำเนินอยู่ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของประเทศไทยในการส่งเสริมความเชื่อมั่น และความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ไทยจะดำเนินการปล่อยเชลยศึกโดยพลัน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ไม่รอด! ตร.รวบ “เจ้าแม่ปอยเปต” ตัวการสำคัญแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเปิดบัญชีม้า-นิติบุคคล ลวงเหยื่อสูญกว่า 50 ล้านบาท
"สุรศักดิ์" ประกาศยกระดับศูนย์ฉายรังสี ครบวงจร ดันสมุนไพรไทยสู่มาตรฐานสากล "สทน." ชี้เทคโนโลยีฉายรังสีแกมม่า-ลำอิเล็กตรอน ทำยาดมสมุนไพรปลอดเชื้อได้ตามมาตรฐาน
ฝนตกถนนลื่นยางมะตอย! รถชนระนาว 12 คัน ถนนลำปาง–งาว เจ็บ 4 ราย
นายก อบจ.พิษณุโลก เปิดการจัดแข่งขันกีฬาเยาวชนตำบลท่าโพธิ์ - ท่าทอง ครั้งที่ 21
เอาแล้ว "ทัพฟ้าไทย" นัดแสดงแสนยานุภาพ จัดเต็มฝูงบินรบโจมตีทางยุทธวิธี ต่อหน้า "นายกฯอนุทิน" 27 พ.ย.นี้
“ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2026” จัดใหญ่ครั้งที่ 19 ยกทัพนักกอล์ฟหญิงระดับโลก อัดฉีดเพิ่มเงินรางวัลรวม 1.8 ล้านดอลลาร์ฯ ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา 19–22 กุมภาพันธ์ 2569

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​