AFP และ BBC รายงานว่าซูเปอร์ไต้ฝุ่นฟงวองอ่อนกำลังลงแล้วหลังพัดขึ้นฝั่งที่จังหวัดออโรร่า ซึ่งอยู่ชายฝั่งตะวันออกของเกาะลูซอนเมื่อคืนที่ผ่านมา (อาทิตย์ที่ 9 พย.) โดยมีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และลมกระโชกแรง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้ต้นไม้หักโค่นและน้ำท่วมสูงครอบคลุมพื้นที่ทางใต้ของเกาะลูซอน หลายพื้นที่น้ำท่วมสูงถึงหลังคาบ้าน
โรงเรียนและหน่วยงานราชการทั่วเกาะลูซอน รวมทั้งกรุงมะนิลาได้ปิดทำการในวันนี้ (จันทร์ที่ 10 พย.)
ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่จังหวัดออโรร่ากล่าวว่าวันนี้จะเริ่มออกประเมินความเสียหาย ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก ถนนสายหลักบางสายไม่สามารถสัญจรได้เนื่องจากดินถล่ม ขณะที่ไฟฟ้าถูกตัดขาดและยังไม่สามารถซ่อมแซมได้ ด้านนายกเทศมนตรีเมืองดิงกาลันเผยว่าบ้านเรือนจำนวนมากและเรือที่จอดอยู่ตามชายฝั่งถุกคลื่นยักษ์พัดทำลายได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยพายุเพิ่งจะสงบเมื่อเช้านี้
อย่างไรก็ตาม รายงานเผยว่าแม้อาคารบ้านเรือนจะได้รับความเสียหายมากมาย แต่จำนวนผู้เสียชีวิตจากซุเปอร์ไต้ฝุ่นฟงวองมีแค่ 2 คน เนื่องจากมีการเตรียมตัวที่ดี ช่วยป้องกันการเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยจากไต้ฝุ่นคัลแมกีที่พัดถล่มจังหวัดเซบูและพื้นที่ตอนกลางของฟิลิปปินส์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผุ้เสียชีวิตอย่างน้อย 224 คน โดย
เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้อพยพประชาชนราว 1.4 ล้านคนล่วงหน้าก่อนที่ซุเปอร์ไต้ฝุ่นฟงวองจะพัดขึ้นฝั่งในคืนวันอาทิตย์ รวมทั้งระงับเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวบิน
ล่าสุดไต้ฝุ่นฟงวองได้ออกจากฟิลิปปินส์ลงทะเลจีนใต้ และกำลังมุ่งหน้าไปทางไตัหวัน ส่งผลให้รัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดฮวาเหลียน ซึ่งอยู่ชายฝั่งตะวันออกของไต้หวันได้สั่งปิดโรงเรียนและหน่วยงานรัฐ รวมทั้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมและโคลนถล่มให้เร่งอพยพออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด

