“สุดารัตน์” ประกาศปักธง “ไทยสร้างไทย” สร้างการเมืองสุจริต ลั่นจะไม่ปล่อยให้ใครโกง นำปท.เดินหน้าพ้นหลุมดำความยากจน

"สุดารัตน์" ประกาศปักธง "ไทยสร้างไทย" สร้างการเมืองสุจริต ลั่นจะไม่ปล่อยให้ใครโกง นำปท.เดินหน้าพ้นหลุมดำความยากจน

ไทยสร้างไทยประกาศ “สร้างการเมืองสุจริต” สุดารัตน์ ลั่น “ดิฉันไม่โกง และจะไม่ปล่อยให้ใครโกง” ย้ำคนเลวต้องไม่มีที่ยืนในสังคม ที่เดียวที่อยู่ได้คือ “คุก” ไทยสร้างไทยขอให้สัญญาประชาคมว่า “เราจะยืนหยัดต่อสู้กับคนเลว ด้วยความกล้าหาญและจริงจัง”

พรรคไทยสร้างไทยจัดเวทีสัมมนา “ทุบทุนเถื่อน” ณ โรงแรมเจซี เควิน สาทร กรุงเทพฯ โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ประกาศเจตจำนงทางการเมืองอย่างชัดเจนว่า พรรคไทยสร้างไทยมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ในการ “สร้างการเมืองสุจริต” เพื่อพาประเทศออกจากหลุมดำ นำการพัฒนาสู่ประเทศ พาประชาชนหลุดพ้นความยากจน

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

คุณหญิงสุดารัตน์ประกาศจุดยืนของพรรคอย่างชัดเจนว่า พรรคไทยสร้างไทย “ไม่โกง และจะไม่ปล่อยให้ใครมาโกงชาติบ้านเมือง” พร้อมย้ำว่า “คนเลวต้องไม่มีที่ยืนในสังคมไทย ที่ยืนที่เดียวของคนโกงคือในคุก” เพื่อยืนยันความตั้งใจของพรรคที่จะผลักดันให้ประเทศไทยมีระบบการเมืองที่โปร่งใส และยุติธรรมอย่างแท้จริง

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า การโกงคือมะเร็งร้ายที่กัดกินประเทศไทยมานาน จนทำให้ประเทศกลายเป็น “คนไข้ที่กำลังป่วยหนัก ถึงขั้นโคม่า” โดยดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ของไทยตกต่ำลงต่อเนื่อง ได้คะแนนเพียง 34 คะแนน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ทุกครั้งที่การโกงเพิ่มขึ้น ความยากจนของประชาชนก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสการพัฒนา จนต้องติดหล่มเป็นประเทศกำลังพัฒนามาหลายสิบปี

คุณหญิงสุดารัตน์ชี้ว่า นี่คือช่วงเวลาสำคัญที่สังคมไทยและรัฐบาลทั่วโลกเริ่มเอาจริงกับการปราบ “ขบวนการสแกมเมอร์” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างใหญ่ของระบบทุจริต และกำลังทำลายเศรษฐกิจไทยอย่างน่ากังวล

จากข้อมูลเศรษฐกิจเถื่อนที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ มีมูลค่าสูงถึง 8.7 ล้านล้านบาท หรือเกือบ 49% ของ GDP ประเทศไทย สูงติดอันดับ 4 ของเอเชีย ตัวเลขความคลาดเคลื่อนสุทธิ หรือเงินที่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ ในปี 2566 อยู่ที่ 180,000 ล้านบาท และในปี 2567 พุ่งทะยานขึ้นเป็นกว่า 530,000 ล้านบาท สะท้อนการขยายตัวของทุนสีดำอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังพบความผิดปกติจากการส่งออกทองคำไปกัมพูชามีมูลค่าสูงถึงเดือนละกว่า 10,000 ล้านบาท รวมสิบปีมากกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นช่องทางสำคัญของการฟอกเงินข้ามพรมแดน

สำหรับปรากฏการณ์เหล่านี้คือการปล้นชาติอย่างเป็นระบบ คนไทยถูกโกง ถูกปล้นทรัพยากรไปแล้วหลายแสนล้านบาท ขณะเดียวกันยังทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าผิดปกติ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคส่งออก และซ้ำเติมเศรษฐกิจของประชาชน

คุณหญิงสุดารัตน์ย้ำว่า พรรคไทยสร้างไทยและตนเองจะเดินหน้าอย่างจริงจังในการทำให้ “คนเลวไม่มีที่ยืนในแผ่นดินไทย” พร้อมเรียกร้องให้ประเทศไทย “ทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์” โดยมีผู้นำที่เอาจริงในการปราบโกงเช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและเวียดนาม ที่สามารถจัดการนักการเมืองและข้าราชการทุจริตได้อย่างเด็ดขาด

ถึงเวลาที่เราต้องน้อมนำพระราชดำรัสของสมเด็จพระชนกาธิเบศรมาปฏิบัติอย่างจริงจัง ต้องส่งเสริมคนดีให้ปกครองบ้านเมือง และไม่ปล่อยให้คนไม่ดีมีอำนาจ พร้อมประกาศเจตนารมณ์ว่า พรรคไทยสร้างไทยจะยืนหยัดต่อสู้กับ “คนเลว” ทุกรูปแบบด้วยความกล้าหาญและจริงจัง เพื่อสร้างประเทศที่โปร่งใสและเป็นธรรมให้กับคนไทยทุกคน

พรรคไทยสร้างไทยจึงเดินหน้าอย่างจริงจังในการ “ทุบทุนเถื่อน” ด้วยนโยบายการปฏิรูปประเทศเพื่อสร้างธรรมาภิบาลและต่อต้านการทุจริต

1. เพิ่มโทษประหารชีวิตแก่ผู้กระทำการทุจริตระดับร้ายแรง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง หรือผู้มีอำนาจที่ใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อแสวงหาประโยชน์

2. จัดทำและแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อสร้าง “อำนาจตรวจสอบภาคประชาชน” ให้ประชาชน50,000 คน เสนอถอดถอน องค์กรอิสระ และศาลรธน. ได้

3. จัดตั้ง องค์กรตรวจสอบการทุจริตภาคประชาชน ทำงานคู่ขนานกับ ป.ป.ช. และ สตง. มีสมาชิกประมาณ 70 คน จากตัวแทนองค์กรวิชาชีพและประชาชนทุกภูมิภาครวมทั้ง กทม. ทำหน้าที่เสมือน สภาประชาชน ตรวจสอบและเสนอเรื่องต่อ ป.ป.ช. สมาชิกเลือกกันเองเป็น คณะกรรมการบริหาร 11 คน เพื่อดำเนินงานและประสานการตรวจสอบ หาก ป.ป.ช. และอัยการเห็นว่าต้องมีหลักฐานเพิ่มเติมให้ส่งกลับมาตรวจสอบใหม่ และหากทั้งสองหน่วยงานไม่สั่งฟ้อง องค์กรภาคประชาชนฯ มีสิทธิ ฟ้องคดีเองได้.

 

 

 

4. พักการใช้หรือระงับกฎหมายและระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินของประชาชนชั่วคราว 3–5 ปี พร้อมทั้งปรับปรุง ยกเลิก หรือแก้ไขกฎหมายที่ริดรอนเสรีภาพ และขัดขวางการประกอบอาชีพสุจริตของประชาชน

5. ลดขนาดของระบบราชการอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านจำนวนหน่วยงานและจำนวนเจ้าหน้าที่ โดยดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ คล่องตัว และลดภาระงบประมาณของประเทศ

6. สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน (โดยเฉพาะ SME) และภาคประชาชน ในการให้บริการสาธารณะและต่อต้านการทุจริตทุกระดับ ทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น เพื่อสร้างระบบธรรมาภิบาลที่ยั่งยืน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สวนนงนุชพัทยาพร้อมผู้ร่วมประกวดภาพถ่าย ร่วมน้อมแสดงความอาลัยสมเด็จพระพันปีหลวง ก่อนพิธีมอบรางวัล “Wonderful Nongnooch Garden 2025”
ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมรักษ์ทะเลไทย เปิดกิจกรรมเก็บขยะชายหาดสู่วันทะเลโลก 8 มิถุนายน 2569 สานต่อความงามแห่งท้องทะเลไทย
ฉะเชิงเทรา เปิดศูนย์ตรวจสอบพระเครื่อง SEMAMULET ตรวจพระแท้ค่าบริการเพียง 200 บาท ได้มาตรฐานสากล
หนุ่มสุราษฎร์ฯ เดินเท้าไกล 15 วัน เข้ากรุงถวายความอาลัย “สมเด็จพระพันปีหลวง”
ราชมงคลสุวรรณภูมิ เดินหน้าศึกษาแนวทางจัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์ เสริมกำลังผลิตบุคลากรสุขภาพคุณภาพสู่สังคม
บางสะพานเร่งแก้รถติดถนนเพชรเกษม ขยับจุดบีบช่องทางลดอุบัติเหตุ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​