

วันที่ 7 พ.ย. 2568 ที่ห้องประชุมโรงแรมบัวธารา อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นายสุนทร น้อยราช อายุ 53 ปี กำนันตำบลรับร่อ พร้อมผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านรวม 8 คน แถลงข่าวชี้แจงกรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 414 และชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4102 จับกุมในข้อหา “ร่วมกันนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” หลังถูกตั้งข้อกล่าวหาหนักหลายกระทงตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ตชด. ตรวจพบรถยนต์กระบะของนายสุนทรบริเวณช่องหินดาษ ชายแดนไทย–เมียนมา หมู่ 10 ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร และได้ควบคุมตัวพร้อมของกลาง ก่อนส่งดำเนินคดีในข้อหาหลายประการ อาทิ ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ และนำพาคนต่างด้าวเข้าประเทศโดยไม่ผ่านช่องทางตรวจคนเข้าเมือง ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ ได้นำตัวนายสุนทร และนายเหมืองเพ็ชร ผู้ต้องหาอีกหนึ่งราย พร้อมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา 15 คน ฝากขังต่อศาลจังหวัดชุมพร ก่อนที่ทั้งสองจะได้รับการประกันตัวในชั้นศาล คนละ 200,000 บาท


ในการแถลงข่าว นายสุนทรชี้แจงว่า เหตุการณ์วันนั้นตนและคณะผู้ใหญ่บ้านเดินทางไปทอดกฐินสามัคคีเชื่อมความสัมพันธ์กับชาวฝั่งเมียนมาที่อยู่ตรงข้ามช่องหินดาษ โดยได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ ตชด. และโทรศัพท์แจ้งผู้บังคับบัญชาระดับสูงเพื่อขอข้ามแดนไปเพียง 1–2 ชั่วโมง พร้อมมีภาพถ่ายกิจกรรมยืนยันว่ามีเพียงการทอดกฐินและแจกของให้ชาวบ้านฝั่งตรงข้ามเท่านั้น กำนันสุนทรกล่าวยืนยันว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายเหมืองเพ็ชร ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่านำแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร เพราะนายเพ็ชรเดินทางข้ามแดนก่อนตนหนึ่งวัน และมีสวนอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ลูกก็เรียนอยู่โรงเรียน ตชด. ฝั่งไทย “ผมไปทอดกฐิน ไม่ได้ขนแรงงานใคร และคนเมียนมาที่ถูกจับก็มีพาสปอร์ต มีนายจ้างถูกต้องทุกคน ผมไม่สิ้นคิดถึงขนาดค้าคนกลางวันแสกๆ หรอกครับ”
ทั้งนี้ กำนันสุนทรยังตั้งข้อสังเกตว่า การแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะตนเป็นผู้ประสานงานด้านความสัมพันธ์ชายแดน และเคยยื่นเรื่องขอเปิดจุดผ่อนปรนช่องหินดาษต่อจังหวัดไว้แล้ว พร้อมยืนยันว่า จะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน

เอกชนะ นวนละมัย ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.ชุมพร

