“นายกฯ” ย้ำไม่ชิงยุบสภาก่อน ขอรักษาสัญญากับพรรคปชน. ไม่มีบริหารประเทศแบบกลั่นแกล้ง แย้มข่าวดีคนละครึ่งพลัส เฟส 2 มาแน่

"นายกฯ" ย้ำไม่ชิงยุบสภาก่อน ขอรักษาสัญญากับพรรคปชน. ไม่มีบริหารประเทศแบบกลั่นแกล้ง แย้มข่าวดีคนละครึ่งพลัส เฟส 2 มาแน่

“นายกฯ” ย้ำไม่ชิงยุบสภาก่อน ขอรักษาสัญญากับพรรคปชน. ไม่มีบริหารประเทศแบบกลั่นแกล้ง แย้มข่าวดีคนละครึ่งพลัส เฟส 2 มาแน่

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

5 พ.ย.2568 ที่พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แสดงวิสัยทัศน์ ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ในหัวข้อ “Thailand’s Next Frontier : A National Economic Vision วิสัยทัศน์ประเทศไทยในโลกใหม่” ได้กล่าวตอนหนึ่งบนเวที แสดงวิสัยทัศน์ ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ในหัวข้อ “Thailand’s Next Frontier : A National Economic Vision วิสัยทัศน์ประเทศไทยในโลกใหม่” ว่า ประเด็นเศรษฐกิจ ความความสามารถในการแข่งขัน ในช่วงเวลาสี่เดือนนี้ โฟกัส นโยบาย Quick Big Win ซึ่งได้ทีมเศรษฐกิจ รองนายกรัฐมนตรี ทั้ง 3 ท่าน นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งเรื่องเศรษฐกิจ ทั้งสามท่าน มีความเข้าใจกลไกของรัฐ เป็นอย่างดี และเป็นผู้ปฏิบัติซึ่งเราเน้นเรื่องปากท้องประชาชนสำคัญที่สุด เช่น นโยบายคนละครึ่งพลัสก่อนหน้านี้ถูกกล่าวหาว่าเลียนแบบคนอื่น

 

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไม่เคยคิดถึงตรงนั้น คิดแค่เพียงว่าประชาชนได้อะไร หากประชาชนได้ และ กระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะกี่เปอร์เซ็นต์มันก็ก็คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ และที่สำคัญคือการมีเม็ดเงินในระบบ ไม่ใช่การแจกฟรี ประชาชนมีส่วนร่วม ส่วนประชาชนที่อยู่ชายขอบ ก็มีโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเติมเงินเข้าไปให้ ซึ่งก็ win-win จำนวนเงินที่ทุกคนจะได้เท่ากัน เฉลี่ยประมาณ 2,000 บาท ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ขวัญกำลังใจคนในประเทศดีขึ้น เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่อย่างน้อย 4 เดือนก็ได้ทำ

ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็เดินหน้าเรื่องการแก้หนี้ครัวเรือน พยายามปรับโครงสร้างหนี้ไม่เกิน 100,000 บาทสำหรับผู้นำประชาชนที่หาเช้ากินค่ำทั่วไป ถือเป็นสิ่งที่มีความหมายและความมีความสำคัญ

ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เดินหน้านโยบายไฟฟ้าชุมชน ทั้งหมด 1,500 เมกะวัตต์ทั่วประเทศ และ ชุมชนละไม่เกิน 5 เมกะวัตต์ หากใช้ไม่ถึงก็สามารถขายคืน นำเงินนั้นมาเป็นกองทุนหมู่บ้าน ต้องทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจบริบทคำว่า green economy เราต้องสร้างความคุ้นเคยเรื่องนี้ให้ได้ เพราะสมัยนี้เราต้องอยู่ในโลกที่กติกาใหม่ เราต้องรักธรรมชาติให้มากที่สุด สร้างความเป็นมิตรให้โลก สร้างการแข่งขันบนเวทีโลก โดยที่รัฐบาลนี้ สร้างพื้นฐานไว้ให้รัฐบาลในอนาคต นำไปต่อยอด

 

 

ทั้งนี้นายอนุทิน ได้เผยถึงความรู้สึกที่ได้เป็นหลังได้เป็น นายกฯ เจออะไรที่ยากหรือไม่ ว่า ทำงานมาครบ 1 เดือน พยายามบรรลุเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ บอกกับตัวเราเองว่ามีเวลา 4 เดือน ในการบริหารราชการแผ่นดินแบบเต็มรูปแบบด้วยอำนาจเต็ม ตั้งกรอบว่าต้องทำงานอย่างเดียว สิ่งที่ทำได้จะเร่งทำ อะไรที่ทำไม่ได้ภายใน 4 เดือน ต้องรอรัฐบาลใหม่ มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบ Big Quick Win แก้ปัญหาความมั่นคงที่เรามีประเด็นกับประเทศเพื่อนบ้าน เร่งฟื้นฟูเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน จากการปะทะกัน และภัยธรรมชาติ แค่นี้ก็เยอะแล้ว

 

การที่มีคนสงสัยว่า จะเป็นรัฐบาล 4 เดือน จริงหรือไม่ นายกฯ เผยว่า จะมีการยุบสภาตาม MOA ที่สัญญาไว้กับพรรคประชาชน ตนเข้ามาเป็นรัฐบาลได้พูดคุยกับพรรคประชาชนว่าสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนั้น การยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ คืนอำนาจให้กับประชาชน จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

“ตอนนั้นไม่มีคนยุบสภา แม้แต่พรรคที่เป็นรัฐบาลอยู่ตอนนั้น ก็มีประเด็นข้อสงสัยว่าจะมี นายกฯ ที่ยุบสภาหรือไม่ นายกฯ ตัวจริงไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ตนคุยกับพรรคประชาชนเห็นพ้องกันว่า ผู้ที่ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ ไม่มีอำนาจยุบสภา จึงต้องมีวิธีการให้มีการยุบ พรรคประชาชนไม่มีแคนดิเดตนายกฯ จึงมีความเห็นพ้องต้องกันว่าต้องการเลือกตั้งหรือยุบสภา เพราะประเทศมีความเสียหายมากพอสมควร ต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน”

 

 

ยืนยันหรือไม่ว่า การยุบสภาจะเป็นไทม์ไลน์เดิม นายอนุทิน ย้ำว่า “ตนนั่งยัน ยืนยันมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนความคิด” มีคนเยอะแยะบอกว่าอาจจะมีเหตุการณ์นี้เหตุการณ์นั้นเอามาเป็นข้ออ้างได้ รับรองว่าไม่ปฏิบัติตามแน่นอน เพราะถือว่าเราร่วมกับพรรคประชาชน ต้องยอมรับพรรคประชาชนทำให้ตนได้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องรักษาสัญญากับพรรคประชาชน เมื่อครบ 4 เดือน ก็ต้องยุบสภาไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น

ส่วนที่มีกระแสเกิดขึ้นว่า มีการเลื่อนให้ยุบสภาก่อน ถ้ามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ เผยว่า เป็นเรื่องที่ตนต้องดูสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา การอภิปรายไม่ไว้วางใจตรงกับอะไร วัตถุประสงค์อะไร ถ้าวัตถุประสงค์ทำเพื่อให้เกิดการล้างแค้น การเอาคืน สภาเปิดเดือนธันวาคม ตนก็ตั้งใจจะยุบสภาวันที่ 31 มกราคม 69 อยู่แล้ว คงไม่ปล่อยให้ใครมาด่ารัฐบาลเล่นเล่นฟรีๆ เป็นเกมการเมืองและรัฐบาลสู้ไม่ได้ก็ลำบาก ห่างกันแค่เดือนเดียวคงไม่ได้เกิดความแตกต่างอะไรมาก เราจะไปตื่นเต้นกับสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ตนมั่นใจว่า 4 เดือน จะทำให้ดีที่สุดกับบ้านเมือง

“ทีมงานมืออาชีพที่ตนเชิญมา รัฐมนตรีเหล่านี้เสียสละมาก เพราะแต่ละท่านอยู่ในที่เดิมทั้งรายได้ บทบาท อนาคต ตนก็พูดให้ฟังถ้ามาทำแล้วเปลี่ยนบริบทประเทศไทยได้ สร้างมาตรฐานในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มีระบบโควตา ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นและความหวัง เราจะทำให้ประเทศเปลี่ยนไป ทุกอย่างเปลี่ยนได้ชั่วข้ามคืนถ้าเราตั้งใจที่จะทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เอาความเป็นส่วนตัวออกเมื่อไหร่ เอาประโยชน์ส่วนตนออกเมื่อไหร่ เอาพรรคพวกออกเมื่อไหร่ ประเทศไทยกลับมาได้”

สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าพร้อมหรือไม่ นายกฯ ยืนยันว่า “พร้อมตั้งแต่เอาผมออกจากรัฐบาลแล้ว” พร้อมก่อนหน้านั้นแล้ว ถ้าไปถามสมาชิกพรรคภูมิใจไทย วันที่เข้าสภามาเมื่อปี 66 ก็เดินหน้าทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร วาระในที่ประชุมสมาชิกคือการเตรียมตัวเลือกตั้ง เพราะเกิดขึ้นได้ทุกวัน ตนปลูกฝังคนพรรคภูมิใจไทย “เลือกตั้งเกิดขึ้นได้เสมอ ต้องเกิดขึ้นพรุ่งนี้ ถ้าพรุ่งนี้เลือกตั้งก็ต้องพร้อม”

เมื่อถามว่า พร้อมจะเป็นนายกฯ อีกครั้ง มีกลยุทธ์ที่ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ดีเหมือนกันนะเป็นนายกฯ ตอนแรกยังไม่ได้เป็นก็กลัวๆ กล้าๆ แต่พอมาเป็นแล้วเห็นว่าสิ่งที่สามารถทำให้บ้านเมือง ให้กับประเทศในความเป็นนายกรัฐมนตรี จะเป็นยาวเป็นสั้นไม่ได้มีความสำคัญ “สำหรับตนเป็นแล้วก็คือเป็น ต่อให้ตนเป็นนายกฯ ได้เพียง 3-4 เดือน คนก็จะเรียกว่าตนนายกฯ เหมือนที่ตนเรียก นายกฯทักษิณ ตนเรียกอดีตนายกฯ ทุกคนว่านายกฯ“ อยู่ที่ว่าเวลาที่มีอยู่ทำอะไรให้ปังสักอัน ให้เป็นที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อบ้านเมือง เป็นภาพจำของคน จะได้กลับหรือไม่ได้กลับไม่ได้เร่งรัด ถือว่าตอนที่เราเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ทำสิ่งดี ๆ

ส่วนที่บอกว่าอยากจะสร้างสิ่งที่ปังขึ้นมา ขณะที่ตอนนี้มีภัยสแกมเมอร์ ทุนสีเทา จุดเปราะบางในประเทศไทย และยึดทรัพย์จากสหรัฐ อีกทั้งประเทศไทยถูกมองว่าเป็นศูนย์กลางการฟอกเงิน นายกฯ มีมาตรการแก้ไขจริงจังอย่างไร นายกฯ เผยว่า ต้องพยายามทำความเข้าใจก่อนที่จะบอกว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการฟอกเงิน ดูไม่ค่อยยุติธรรม การฟอกเงินคือธุรกิจผิดกฎหมาย ธุรกิจที่น่ารังเกียจ สแกมอยู่ในประเทศระบบที่ดีและพัฒนาแล้วมากๆ ไม่ได้ ต้องอยู่ในประเทศที่มีช่องว่างทางกฎหมาย แต่ประเทศไทยไม่ใช่ศูนย์กลาง ประเทศไทยอยู่ตรงกลางในรอบๆ ประเทศที่สามารถทำสแกมได้ การที่ประเทศไทยน่าเชื่อถือที่สุดในภูมิภาคนี้ ค่าเงินบาทเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ เทิร์นไปเป็นดอลล่าร์ ยูโร ปอนด์ จึงเป็นสิ่งที่ทำให้คนที่ทำธุรกิจยาเสพติด ค้ามนุษย์ ธุรกิจสีดำ ต้องใช้ไทยเป็นฐานในการฟอกเงิน ประเทศไทยต้องมีกฎหมายที่เคร่งครัดเข้มงวด มีเจ้าหน้าที่ที่ตั้งใจปราบปราม เรามีกลไกหมด ปปง. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พวกเขาทำหน้าที่ไปเยอะแต่ของพวกนี้บางทีเป็นเรื่องของการปฎิบัติในทางลับ บอกว่าทำอย่างไรทำอะไรไม่ได้ ตนก็บอกว่าเราต้องอยู่เหนือคนทำผิดเสมอไม่ใช่ไล่ตามเป็นโปลีสจับขโมย 4 เดือนนี้ ต้องการการสนับสนุนอะไรที่จะไปปราบปรามป้องกัน สแกม ค้ามนุษย์ ยาเสพติด เครื่องมือไม่ต่างกันเป็นชุดเดียวกัน รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนเต็มที่ เรื่องของการเกรงกลัวต่ออิทธิพลใดๆ ตนให้คำยืนยันว่าไม่มี นายกรัฐมนตรียืนยันและย้ำกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขา ปปง. เลขา สมช. กับหน่วยตรวจสอบทั้งหลายที่มี ”เมื่อรัฐบาลไม่กลัว ผู้ปฏิบัติก็ต้องไม่กลัว“

รวมทั้งการเซ็นเปล่าในการขอการสนับสนุนจากรัฐบาลในการปราบอาชญากรรม เราพูดคุยทุกวันผลงานมีตลอด ยาเสพติดก็จับได้จำนวนมาก ยึดทรัพย์ 20,000 กว่าล้าน ถอนสัญชาติ แบล็คลิสต์ อายัดทรัพย์ แต่ของพวกนี้มาบอกได้อย่างไร ต้องสืบทางลับและไล่ขยายผลยึดทรัพย์ไปเรื่อยๆ สัปดาห์ที่แล้วก็มีการถอนสัญชาติรายใหญ่ที่อยู่ กับสัญชาติไทยมา 30 ปี ยืนยันรัฐบาลของตนเข้ามา 3 อาทิตย์ ถอนสัญชาติเรียบร้อย ไม่เห็นมีปัญหาอะไร และไม่มีใครรู้ด้วย แต่เราดำเนินการแล้วและจะดำเนินการต่อไป

มีการตั้งคำถามถึง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง จะตอบเรื่องนี้อย่างไร นายกฯ ชี้แจงว่า ท่านถูกครหาแต่ยังไม่ได้ถูกกล่าวหา ยังไม่มีหลักฐาน ไม่มีหน่วยงานไหนทั้งไทยและต่างประเทศดำเนินคดีกับท่าน แต่เมื่อมีข่าวออกมา ตนนี่แหละไปบอกให้ท่านลาออก ท่านก็ให้ความร่วมมือ อะไรที่ถูกครหาและถ้าอยู่ในกระทรวงที่เราต้องใช้ใจในการปราบปรามสิ่งเหล่านี้ ท่านก็แสดงสปิริต เรื่องของการดำเนินการต่างๆ ไม่มีทางที่จะพ้นไปจากหน่วยงานที่ดำเนินการอยู่ ไม่ผิดก็คือไม่ผิด บอกผิดไม่ได้ การใช้กฎหมายในรัฐบาลตนมุ่งเน้นที่พฤติกรรมรูปคดี ไม่ใช้เกมทางการเมือง ตนไม่ย้อนรอย ยืนยันว่าไม่มี

 

“สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในรัฐบาลที่แล้ว เขาพยายามใช้กลไกของรัฐมากำจัดคู่แข่งทางการเมือง มากีดกันกล่าวหาให้เกิดความเสียหาย เป็นสิ่งที่ประเทศอารยะไม่ทำ ปล่อยให้เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะจะเกิดเป็นกงกรรมกงเกวียนไม่จบสิ้น นักการเมืองทะเลาะกัน ใช้กลไกกลั่นแกล้งกัน คนที่เดือดร้อนคือประเทศและประชาชน นักการเมืองต้องไม่ทำเช่นนี้ ตนก็ไม่ทำด้วยเช่นกัน แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนี้มีอำนาจมากที่สุด ตั้งแต่มีรัฐบาลมาในรอบ 20-30 ปี นายกฯ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กำกับดูแลกระทรวงสำคัญทุกกระทรวง ถ้าตนเจ้าคิดเจ้าแค้น สนุกเลย เดือนหนึ่งก็ทำได้แล้ว อย่าว่าแต่ 4 เดือน แทนที่ตนจะเจ้าคิดเจ้าแค้น ตนคิดอย่างเดียวว่าสิ่งเหล่านี้ต้องเปลี่ยน เวทีโลกต้องมีความยุติธรรม ความเท่าเทียมกัน ความน่าเชื่อถือ”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“นฤมล” เปิดปฐมนิเทศทุน ODOS รุ่น 3 หนุนเยาวชน 1,200 คน สู่โอกาสเรียนต่อ ย้ำการศึกษาเป็นกุญแจสร้างคน พัฒนาชาติ
มุกดาหาร จุดเทียนขึ้นภูบูชาพระใหญ่ เนื่องในงานประเพณีลอยกระทงบูชาพระแม่คงคา
ฝูงลิง บุกตลาดสดเทศบาลเมืองศรีราชา วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดูแล
"ผอ.สภำนักงานสลากฯ" แจงย้ำบริหารจัดการโควต้าสลากฯ ยึดโปร่งใส มุ่งสิทธิประโยชน์ผู้พิการ สมาชิก 860 องค์กร ยันมีมาตรการลงโทษ พร้อมสอบผิดทุกคำร้องเรียน
ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงาน แสดงความอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เบตงเข้มความปลอดภัยช่วงลอยกระทง ปรับรูปแบบงานให้เหมาะสมกับบรรยากาศแห่งความอาลัย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​