ตำรวจพิมายสอบเข้ม 2 ผู้ต้องหา ‘ปลอมโฉนดหลอกขายที่ดิน’ สูญ 3 ล้านบาท เชื่อ ทำเป็นขบวนการ

นครราชสีมา ตำรวจพิมายสอบเข้ม 2 ผู้ต้องหา 'ปลอมโฉนดหลอกขายที่ดิน' สูญ 3 ล้าน–ล่าขบวนการโยงอีสานตอนล่าง คาดมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

วันที่ 4 พ.ย. 2568 พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ พรหมหมื่นไวย์ ผู้กำกับการ สภ.พิมาย พร้อมด้วยชุดสืบ ได้ติดตามความคืบหน้าคดีปลอมโฉนดที่ดินหลอกขายผู้เสียหาย มูลค่า 3 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลถึงเครือข่ายและนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง พร้อมออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการ ผู้ต้องหาที่ถูกสอบสวนประกอบด้วย น.ส.สุ(นามสมมุติ) อายุ 40 ปี และ น.ส.กุล(นามสมมุติ) อายุ 49 ปี ทั้งคู่เป็นชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งสวมรอยเป็นเจ้าของที่ดิน ขณะที่ผู้ร่วมขบวนการอีก 3 ราย ได้แก่ น.ส.ศิ(นามสมมุติ) , น.ส.ทัย(นามสมมุติ) ถูกดำเนินคดีอยู่ในเรือนจำ ,ส่วน.ส.บุษ(นามสมมุติ) อยู่ระหว่างการหลบหนีออกหมายจับ

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

คดีมีจุดเริ่มเมื่อมีนาคม 2567 ผู้เสียหาย น.ส.นัน(นามสมมุติ) อายุ 59 ปี ชาวกรุงเทพฯ ถูกติดต่อเสนอขายที่ดิน 2 แปลง รวมกว่า 50 ไร่ ในตำบลดงใหญ่ อ.พิมาย ในราคาเพียง 3 ล้านบาท อ้างเป็นญาติเจ้าของที่ดิน มีเอกสารสำเนาโฉนดและแผนที่แปลงครบ ผู้เสียหายจึงนัดทำสัญญาที่สำนักงานที่ดิน สาขาพิมาย วันที่ 15 มี.ค. 2567 เวลา 15.30 น. กลุ่มผู้ต้องหาอ้าง “เจ้าของที่ดินตัวจริงมาไม่ได้” แต่มีมอบอำนาจ พร้อมหลอกให้ลงชื่อในเอกสารต่อหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

เวลา 18.00 น. วันเดียวกัน กลุ่มดังกล่าวพาหญิงอีกรายมาแสดงตัวเป็น “นางวันทนา ” (ภายหลังทราบว่าเป็น น.ส.กุล(นามสมมุติ) พร้อมมอบเอกสารโฉนด สัญญาซื้อขาย และใบเสร็จโอนกรรมสิทธิ์ ปลอม ครบชุด ผู้เสียหายจึงมอบเงินสด 3 ล้านบาท ต่อหน้าและบันทึกวิดีโอไว้ กระทั่งต่อมาสำนักงานที่ดินโทรสอบถามเหตุไม่มาโอนจริง จึงพบว่าเอกสารทั้งหมดเป็นของปลอม ผู้เสียหายรีบแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน

 

 

 

 

 

พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ระบุว่าพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดตาม มาตรา 83, 341 และ 266 ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม คดีนี้มีรูปแบบการก่อเหตุเป็น ขบวนการ ตั้งแต่จัดหาที่ดินจริงพาไปดู ปลอมเอกสารราชการ และสวมรอยเจ้าของที่ดินรับเงินสด เบื้องต้นเชื่อมโยงเหตุลักษณะเดียวกันในหลายจังหวัดภาคอีสานตอนล่าง ความเสียหายรวม กว่า 100 ล้านบาท

เตือนภัยประชาชน ก่อนซื้อขายที่ดินให้ตรวจสอบเอกสารตัวจริงกับสำนักงานที่ดินโดยตรงทุกครั้ง อย่าจ่ายเงินก่อนการโอนกรรมสิทธิ์เสร็จสิ้น และระวังการอ้างมอบอำนาจ–เร่งรัดนอกเวลาราชการ หากพบพิรุธแจ้งตำรวจใกล้บ้าน

ทั้งนี้ ตำรวจเร่งติดตามผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี 3 ราย พร้อมตรวจเส้นทางการเงินและ “บัญชีม้า” เพื่อสาวไปถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง เผยอาจมีผู้เสียหายเพิ่ม ขอให้ผู้เกี่ยวข้องนำเอกสารและหลักฐานเข้าร้องทุกข์ทันที.

 

 

 

 

 

ภาพ-ข่าว ประสิทธิ์ วนะชกิจ ผู้สื่อข่าวTOPNEWSทั่วไทย จ.นครราชสีมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 สัมพันธ์ไทย-จีน) สกีรีสอร์ต 'เหนือสุดแดนมังกร' เปิดฉากฤดูกาลท่องเที่ยว
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ทะเลหมอกเหนือ 'ภูเขาเหล่าจวิน' งามดั่งภาพวาดที่เหอหนาน
ส.ส.หนึ่ง กิตติ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า “ถนนเส้นทางเพื่อสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” คลองประสงค์ กระบี่
จบด้วยดี หลานสาว-หลานเขยให้ทนายนำเงิน 3.5 ล้านบาทมาคืนให้กับยายพยุงแล้ว
ตร.ภูเก็ตเข้ม! ดูแลความปลอดภัยลอยกระทง
ฝนตกหนักไม่ท้อ ชาวสุราษฎร์ 7 คนถวายความจงรักภักดี

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​