“แม่ทัพกุ้ง” เปิดมูลนิธิช่วยลูกหลาน ทหารเสียสละเพื่อชาติ ชี้การเอาคืน “ปราสาทตาควาย” ผู้นำต้องตัดสินใจ

แม่ทัพกุ้ง" ยืนยัน ปราสาทตาควายเป็นของไทย อันไหนอยู่พื้นแผ่นดินไทยต้องทวงคืน จะเสียมากเสียน้อย ขึ้นอยู่กับผู้นำและการวางแผน

“แม่ทัพกุ้ง” เปิดมูลนิธิช่วยลูกหลาน ทหารเสียสละเพื่อชาติ ชี้การเอาคืน “ปราสาทตาควาย” ผู้นำต้องตัดสินใจ – Top News รายงาน

 

แม่ทัพกุ้ง

 

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 พลโทบุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้สัมภาษณ์ที่ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน หลังได้รับเชิญมาเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “เยาวชนไทยร่วมใจรักชาติ รักแผ่นดินและปกจิตสำนึก ด้านคุณธรรม จริยธรรม ความโปร่งใส เพื่อความมั่นคงของชาติ”

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ภายหลังจากจบบรรยายพิเศษ พลโทบุญสิน ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นเรื่องของการจะเปิดมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือครอบครัวพี่น้องทหารที่เสียสละชีพปกป้องประเทศชาติ ว่า การจัดตั้งมูลนิธิของตน มีจุดประสงค์เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกหลานของทหารที่ด้อยโอกาส เป็นศูนย์รวมการช่วยเหลือตามกำลังที่จะสามารถช่วยได้ ซึ่งงบประมาณจะมาจากคนใกล้ชิดของครอบครัวทหาร และผู้อื่นที่มีความประสงค์อยากร่วมด้วยช่วยกัน โดยตั้งใจว่า ตัวเองจะเป็นประธานมูลนิธิ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการจัดตั้งมูลนิธิ ทุกอย่างจะต้องทำให้ชัดเจน โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ตามขบวนการกฎหมาย

 

 

 

ส่วนเรื่องการทวงคืนของประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ที่กำลังถูกสังคมตั้งคำถามว่า สรุปแล้วปราสาทได้เสียให้กับทางกัมพูชาหรือไม่ พลโทบุญสิน เผยว่า ทุกอย่างตอนนี้เป็นไปตามที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีกล่าว ส่วนตัวยังยืนยันว่ายังมองว่า ปราสาทตาควายยังเป็นของไทยอยู่ ถึงแม้หลายคนจะบอกว่า การใช้กำลังทวงปราสาทคืนนั้น จะเกิดความเสียหายเยอะ แต่การทวงคืนนั้นขึ้นอยู่กับเรา ถ้าเราต้องการทวงเอาปราสาทคืนจริงๆ การเสียสละของทหารจะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับการวางแผนของผู้นำ ตรงไหนเป็นของพื้นแผ่นดินเรา ก็ต้องตามทวงคืน นี้คือความคิดเห็นส่วนตัว

 

ส่วนเรื่องช่องสายตะกู จังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีการทำสัญญาร่วมกันกับทางกัมพูชาในการถอนทุ่นอาวุธหนักร่วมกัน แต่ปรากฎว่าทางทหารกัมพูชามาขัดขวาง โดยอ้างว่า ทหารฝ่ายเหนือของเราไม่ทราบเรื่องและยอมให้มีการเข้าพื้นที่เข้าไปในภายหลัง โดยให้คณะ AOT สังเกตการณ์นั้น พลโทบุญสิน บอกว่า เป็นเรื่องของการบริหารจัดการของฝ่ายกัมพูชา ว่าประสานงาน บริหารอะไรยังไงบ้าง ถ้าสมมติมีการขัดขวางหรือไม่ยอมทำงานร่วมกัน ก็ถือเป็นการผิดสัญญาที่ตกลงกันไว้

ส่วนการถอนกำลังพลหลักของทางกัมพูชานั้น จะเป็นการสร้างภาพหรือเป็นเรื่องการตบตาฝ่ายไทยนั้น พลโทบุญสิน ระบุว่า ขึ้นอยู่กับความจริงใจของทางฝั่งกัมพูชา ตอนนี้เดี๋ยวความจริงก็ปรากฎเพราะโซเชียลสมัยนี้มันรวดเร็ว อาจจะมีภาพความจริงปรากฎออกมาให้เห็นเอง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 สัมพันธ์ไทย-จีน) สกีรีสอร์ต 'เหนือสุดแดนมังกร' เปิดฉากฤดูกาลท่องเที่ยว
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ทะเลหมอกเหนือ 'ภูเขาเหล่าจวิน' งามดั่งภาพวาดที่เหอหนาน
ส.ส.หนึ่ง กิตติ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า “ถนนเส้นทางเพื่อสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” คลองประสงค์ กระบี่
จบด้วยดี หลานสาว-หลานเขยให้ทนายนำเงิน 3.5 ล้านบาทมาคืนให้กับยายพยุงแล้ว
ตร.ภูเก็ตเข้ม! ดูแลความปลอดภัยลอยกระทง
ฝนตกหนักไม่ท้อ ชาวสุราษฎร์ 7 คนถวายความจงรักภักดี

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​