ทางด้านภญ.สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการ อย. กล่าวว่า หลังจากไปตรวจสอบสถานที่ผลิต ได้เก็บส่งตรวจกับทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว ซึ่งตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งตรวจวิเคราะห์ 10 ยี่ห้อ โดยผลวิเคราะห์ตก 3 ยี่ห้อ ยี่ห้อหนึ่งประกาศในเว็บไซต์ก่อนหน้านี้ และช่วงเดียวกันก็มี 2 ยี่ห้อ

เมื่อถามว่ากรณีบริษัท หงส์ไทย ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่อได้หรือไม่ ภญ.สุภัทรา กล่าวว่า เบื้องต้นล็อตที่ประกาศผลไปแล้ว ทางบริษัทได้รับผิดชอบด้วยการเรียกคืน ทั้งหมดออกจากท้องตลาดแล้ว ส่วนล็อตอื่นๆที่ผลิตก่อนหน้านี้ในสถานที่ผลิตที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง ยังไม่มีรายงานว่าตกมาตรฐาน ส่วนตัวอย่างที่เจอสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต ทางอย. จะประกาศต่อไปในอนาคต

“สรุปคือ ตอนนี้สถานที่ที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ยังไม่ถูกเพิกถอน แต่สถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต อย.จะมีการประกาศต่อไป” เลขาฯ อย.กล่าว

เมื่อถามว่า ในส่วนของบริษัท หงส์ไทย จะเรียกความเชื่อมั่นอย่างไร รวมถึงวิสาหกิจชุมชนที่ผลิตอุตสาหกรรมนี้จะเรียกคืนความเชื่อมั่นอย่างไร ภญ.สุภัทรา กล่าวว่า กรณีบริษัท หงส์ไทย ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และจะดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างถูกต้อง ส่วนผลิตภัณฑ์ที่อาจมีปัญหาก็ต้องหารือว่า จะดำเนินการฆ่าเชื้อที่ตรวจพบว่าไม่เป็นมาตรฐานอย่างไร ทราบว่าบริษัท กำลังหารือกับทาง สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติในการแก้ปัญหานี้

ส่วนวิสาหกิจชุมชน ทางอย.ร่วมกับกรมวิทยาศาตร์การแพทย์ และกรมการแพทย์แผนไทยฯ และสมาคมผู้ผลิตยาสมุนไพรในการช่วยผู้ประกอบการ SME อย่างไรต่อไป อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสมุนไพรประมาณ 700 ราย ส่วนใหญ่ไม่ใช่วิสาหกิจชุมชน แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายเล็ก ส่วนขึ้นทะเบียนมีหลายพันทะเบียน อย.จะประสานกับทางสสจ.ในการช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิต อำนวยความสะดวกต่างๆในเรื่องการตรวจสอบ รวมไปถึงการอนุมัติแบบแปลนก่อสร้างช่วยผู้ประกอบการ ซึ่งขณะนี้กำลังพัฒนาการขออนุญาตผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ และเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ

ทางด้านนพ.ชัยวัฒน์ เตชะไพฑูรย์ ประธานกรรมการบริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด กล่าวว่า ตนได้รับการร้องขอมาช่วยแก้สถานการณ์ของหงส์ไทย จากการแถลงข่าววันนี้ ดีใจมากที่รมว.สธ.บอกว่า สธ.ให้ความสำคัญกับประชาชน และอุตสาหกรรมสมุนไพรที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องเรียนให้ทราบว่า เรายอมรับว่ากระบวนการผลิตมีปัญหา แต่เราต้องแก้ไขเพื่อรักษาภาพของสมุนไพรไทย

“ที่ผ่านมาถือว่าข่าวนี้ดราม่าอย่างมาก สร้างความเสียหายของสมุนไพรอย่างมาก น่าเสียดายที่ลิซ่า และอินฟลูฯ เชียร์สมุนไพร แต่ช่วงข้ามคืน ข่าวออกมาแย่มาก ค่อนข้างไม่ดี”

ในส่วนของบริษัท เมื่อผิดพลาดเราจะแก้ไขทั้งหมด โดยจะแก้ไขทั้งกระบวนการผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำ จะทำอย่างไรให้เกษตรกรมีรายได้จากการปลูกสมุนไพร ขณะเดียวกันจะทบทวนกระบวนการผลิตของบริษัท อย่างไรก็ตาม ล็อตอื่นๆไม่ได้มีปัญหา จึงสาสมารถจำหน่ายได้ โดยที่ยึดไปประมาณ 2 ล้านตัวอย่าง โดยล็อตที่มีปัญหา 332 ซึ่งเราไม่โต้แย้ง ต้องทำลาย เพื่อประชาชน แต่ขอฝากว่า ให้ทางหงส์ไทย เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย เพื่อเป็นซอฟต์พาวเวอร์ไทยแท้จริง

ขณะที่นายธีระพงศ์ ระบือธรรม ผู้ก่อตั้งและเจ้าของบริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ ต้องยอมรับทั้งหมด ต้องบอกว่า ส่วนตัวเราทำธุรกิจแบบพัฒนา แต่บางส่วนการพัฒนาอาจผิดพลาดไม่ตรงประเด็น และด้วยปริมาณมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดสิ่งที่ อย.เตือน หรือมีข่าว ตนต้องขอโทษ และน้อมรับทั้งหมดที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีความดื้อดึง หรือมีความไม่อยากปฏิบัติตาม ต้องขอโทษ ขออภัยจริงๆ ในบางอย่างที่อาจไม่สมควรในการสื่อสาร หรือออกความคิดเห็นมากเกินไป ไม่ได้ต้องการแก้ตัว พร้อมจะแก้ไข

ภายหลังการแถลงข่าวแล้ว นายพัฒนา รมว.สาธารณสุข ได้ร่วมประชุมกับ อย. กรมวิทย์ และผู้ประกอบการ ซึ่งรวมถึงบริษัทยาดมสุมนไพร หงส์ไทย จำกัด โดย นายธีระพงษ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือว่าที่ประชุมได้ให้คำแนะนำต่าง ๆ ในการผลิตและพร้อมให้การสนับสนุนการผลิต สำหรับสภาพจิตใจของตนก็ดี เพราะ รมว.สาธารณสุขและเลขาธิการ อย. รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานก็ให้ความเชื่อมั่นว่าจะเข้ามาส่งเสริมและดูแลผู้ประกอบการ มีนโยบายมีการประชุมร่วมกัน และอื่น ๆ ที่จะทำร่วมกันได้ ที่สำคัญคือ อย.ให้การสนับสนุนให้การช่วยเหลือ ให้คำแนะนำเรื่องการจัดตั้งโรงงานที่อ้อมน้อยให้เรียบร้อย

“หลังจากนี้จะนำสินค้าทั้งหมดทุกประเภทที่ผลิตสำเร็จแล้ว ส่งตรวจกับกรมวิทย์ หากมีปัญหาก็จะนำไปฆ่าเชื้อกับ สทน. ส่วนที่ผ่านมาตรฐานก็จะทำหนังสือยืนยันกับ อย. และ สธ. รวมทั้งหนังสือยืนยันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ทุกล็อตการผลิต ส่วนสินค้าที่ถูกอายัดจากโรงงานที่ยังไม่ได้ขออนุญาต ก็จะรอให้ ทางอย.สรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป”