“พ่อแม่-เพื่อนบ้าน” แห่รับขวัญ-มอบสิ่งของให้ “ทหารกล้า” เพื่อเป็นกำลังใจ หลังปฏิบัติหน้าที่ปกป้อง “ปราสาทตาควาย” นาน 3 เดือน

จากการสอบลถาม พลทหารอัครินท์ เล่าให้ฟังว่า หลังจากรู้ว่าจะได้ไปปฎิบัติหน้าที่ปกป้องชายแดน ตนรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่คิดว่าจะได้ไปแนวหน้า ช่วงแรกที่มีการปะทะกันกับทหารกัมพูชา สถานการณ์ค่อนข้างตรึงเครียด โดยมีการสู้รบกันตลอดทั้งวันทั้งคืนหลายวัน จนแทบไม่มีเวลานอน และไม่ได้กินอาหาร เพราะช่วงนั้นไม่มีใครสามารถนำอาหารขึ้นมาส่งได้ ตอนนั้นคิดว่าจะไม่ได้กลับมาเจอหน้าลูกกับเมียและพ่อแม่แล้ว เพราะตอนสู้รบเห็นศพทหารเขมร เสียชีวิต ทำให้ต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก

ด้าน นางแสงตะวัน ดวงบุญชู อายุ 43 ปี เเม่ของ พลทหารอัครินท์ เล่าว่า หลังลูกชายเข้าประจำการที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ตนรู้สึกเป็นห่วงอย่างมากจนนอนไม่หลับ เพราะไม่สามารถติดต่อลูกได้ ตนจึงเฝ้าติดตามสถานการณ์ และรอให้ลูกชายโทรศัพท์กลับมา ตนบอกลูกชายว่าให้ไหว้เจ้าป่าเจ้าเขาเพื่อปกปักคุ้มครองให้รอดพ้นจากอันตราย พอรู้ว่าลูกชายได้กลับบ้านก็ดีใจเป็นอย่างมาก โดยระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ตนคิดถึงลูกชายมาโดยตลอด เมื่อลูกชายกลับบ้าน ผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านต่างมาร่วมผูกแขนให้กำลังใจลูกชายของตน ทำให้ตนรู้สึกดีใจที่ทุกคนยังให้ความสำคัญกับทหาร หลังจากนี้ลูกจะกลับไปปฎิบัติหน้าที่ต่อ ตนยังเป็นห่วงอยู่ แต่ไม่มากเท่าช่วงที่มีการสู้รบอย่างหนัก